Yui in Lund

Swedish in Thai

<< Back


มาพัฒนา "การพูด" กันค่ะ

สวัสดีค่ะ ก็นึกอยากเขียนเล่าเรื่องสมัยที่เรียนภาษาสวีเดนใหม่ๆ แล้วมีปัญหาเรื่องการพูด การออกเสียงค่ะ เผื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้เริ่มเรียนภาษาสวีเดน

เหตุที่เริ่มคิดหาทางพัฒนาการพูดของตัวเองก็มาจากว่า เรียนไปได้สักพักแล้ว เห็นคนอื่นเค้าพูดโต้ตอบได้เยอะแล้ว เราเองยังโต้ตอบสู้เพื่อนๆ เค้าไม่ได้ ออกเสียงไม่ค่อยได้ ลิ้นไม่ไปให้ บางทีพูดไปแล้วเค้าฟังไม่รู้เรื่อง เพราะเหตุนี้ทำให้ขาดความมั่นใจในการพูด เลยไม่ค่อยพูด บางทีสงสัยอยากถามครูในห้องเรียนก็ไม่รู้ว่าจะถามยังไง ไม่กล้าด้วย ก็คิดว่าปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว ไม่งั้นประวัติศาสต์ซ้ำรอย เดี้ยงๆ เช่นเดียวกับภาษาอังกฤษ ต้องสู้กันหน่อย ก็เลยพยายามหาวิธีทางพัฒนาปรับปรุงเรื่องการพูดของตัวเองค่ะ

ก็ไปปรึกษาครูผู้สอนว่าควรทำยังไงดี ครูบอกว่า...

"ถ้าอยากพูดได้เก่งๆ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่โรงเรียนก็ชวนเพื่อนๆ พูดภาษาสวีเดน เลิกใช้ภาษาอังกฤษอย่างที่เคยๆ กันซะ และที่บ้าน ก็หันไปพูดภาษาสวีเดนกัน ฝึกพูดโต้ตอบกับคนที่บ้าน ช่วยได้เยอะนะ"


ได้คำแนะนำมาแล้วก็เริ่มปฏิบัติการ... ที่โรงเรียนพอดีเพื่อนในกลุ่มที่ชอบๆ คุยกันก็ไปฟังครูแนะนำเรื่องนี้มาด้วยกัน ก็หันมาคุยภาษาสวีเดนกันหลังจากถามครูเสร็จเลย แล้วก็ขยายผลไปสู่เพื่อนคนอื่นๆ ด้วย แรกๆ ก็ทุลักทุเล ต่างคนก็ต่างไม่ค่อยได้ ก็ช่วยๆ กันไปตามประสาเด็กน้อย ใช้ความอดทนพอสมควรล่ะค่ะ รอฟังกันกว่าจะพูดสื่อสารกันได้แต่ละประโยค เพราะเพิ่งเรียนได้ไม่นาน แต่ดันอยากพูดเก่งเหมือนเพื่อนที่อยู่สวีเดนมานานแต่เพิ่งมาเรียน มีอยู่ไม่กี่คนในห้องน่ะ คนอื่นที่เค้าพูดภาษาอังกฤษได้เก่งๆ ก็พูดสวีเดนได้คล่องพอตัวเลย ไม่ค่อยมีปัญหามากเท่าไหร่

กลับมาถึงบ้านก็เล่าให้ซานต้าฟังว่า ต่อไปนี้นะจะพัฒนาทักษะการพูด เธอต้องช่วยชั้นน่ะ เธอนั้นสำคัญมากมายต่อการเรียนภาษาสวีเดนของชั้น จะเก่งไม่เก่งก็ขึ้นอยู่กับเธอด้วยนะ ไม่ใช่แค่แต่ที่โรงเรียนเท่านั้น ก็เกริ่นไปพอหอมปากหอมคอ แล้วก็บอกว่ช่วยแนะนำเวลาพูดด้วยนะ เรื่องการออกเสียง สำเนียง การเน้นคำ การเรียงประโยค ตรงไหนตกหล่นผิดพลาดก็แก้ไขบอกกล่าวกันด้วย ... พอบอกเสร็จก็เริ่มพูดภาษาสวีเดนเลยค่ะ ...



โอย... จะบอกว่า ยากเย็นเข็ญใจ เด็กน้อยหัดพูด ศัพท์ในหัวก็น้อย แต่อยากพูดหลายอย่าง บอกคำอังกฤษเค้าไป ให้เค้าบอกมาเป็นสวีดิช แล้วก็เรียงประโยคตามประสา มือไม้จะพันคอตายวุ่นวายไปหมด กว่าจะสื่อสารกันได้เรื่องก็เหงื่อตกกันไปทั้งคู่ พูดได้ไม่นานก็หมดความอดทนกันทั้ง 2 ฝ่าย ก็หันไปพูดภาษาอังกฤษเหมือนเดิม 555+ ง่ายกว่ากันเยอะ ไม่ต้องเสียเวลา เสียพลังงาน

แต่ว่าคำของครูก้องอยู่ในหัวว่า "พูดภาษาสวีเดนกับคนที่บ้าน" ก็พยายามฝีนความรู้สึกกันต่อไป บอกตัวเองว่า ต้องอดทน ขอร้องซานต้าว่า เราต้องช่วยกัน ชั้นอยากได้ดี ไปโรงเรียนก็ไม่ค่อยได้พูดหรอก นั่งฟังครู พอจะพูดเพื่อนที่พูดได้มากๆ ก็แย่งพูดไปหมดแล้ว ขอเหอะนะ ... เพื่อนคนอื่นๆ เค้าก็เจอปัญหาเดียวกัน กับคนที่บ้าน ก็ให้กำลังใจกันสู้ต่อไป ... อึดอัดเกินจะบรรยายได้ค่ะ ทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน นอกจากภาษาอังกฤษจะไม่แตกฉาน สื่อสารได้ไม่เต็มที่เหมือนภาษาของตัวเองแล้ว ยังมาเจอความยากเย็นกับภาษาสวีเดนอีก ... ท้อไปหลายหน แต่ก็อึดค่ะ ไม่ได้นะ ชั้นต้องทำให้ได้ ซานต้าแกก็ความอดทนสูงเหมือนกัน ก็ประคับประคองกันไป... เพื่อนคนนึงในกลุ่มเค้าเลิกพูดภาษาสวีเดนกับแฟนไป เพราะว่าฝืนอดทนกันต่อไปไม่ไหวแล้ว

ฝึกออกเสียงกันทุกวัน เจอคำใหม่ๆ ก็จำไว้ว่าออกเสียงยังไง คำยาวๆ นี่ยิ่งมีปัญหา ลิ้นไม่ไปให้อ่ะ 555+ ก็ฝึกซ้ำๆ จนคุ้นปาก บางทีก็ออกเสียงไม่ครบ คำควบกล้ำ ร หรือ ล ก็ไม่ชัด หรือไม่มีเลย หางเสียงในแต่ละคำก็ไม่มี ... พอเปิดโอกาสให้ติติงซานต้าก็ได้ที เต็มที่ ติหมด ... เครียดนะคะ เยอะแยะมากมายหลั่งไหลเข้ามา พูดไรก็ไม่ถูก ผิดๆ เพี้ยนๆ ... ฝืนๆ ทนๆ อยู่นานพอควร ก็เริ่มเห็นว่าตัวเองดีขึ้นมากทั้งการพูดและการฟังด้วย บวกไปถึงการเขียน เพราะว่า เราพูดยังไงเราก็เขียนแบบนั้น ... เลยมีกำลังใจสู้ต่อ


ที่ซานต้าติงก็เสียงควบกล้ำ ร หรือ ล ... ก็ละเลยตั้งแต่ในภาษาไทยแล้ว คำควบกล้ำสองตัวเนี้ย 555+ ก็ต้องฝึกกันให้คุ้นเคยไว้ ส่วนเรื่องของหางเสียง เช่น katt ก็ออกเสียงว่า คัท ไร้หางเสียงตามแบบไทยๆ ตามประสาของอีชั้นล่ะค่ะ ซานต้าก็บอกว่า ไม่ได้ สำคัญนะ เพราะว่า บางคำแค่หางเสียงต่างกัน ความหมายก็ไม่เหมือนกันแล้ว ต้องออกเสียงว่า คัททึ มี ทึ เบาๆ เป็นหางเสียงด้วย

คำกิริยาที่มีตัว r ลงท้ายก็ต้องมีหางเสียงด้วย เช่น sover ก็ให้ออกเสียงว่า โซฟเว่อรึ มี รึ เบาๆ ด้วย อีกอย่างในแต่ละคำต้องออกเสียงตัวอักษรให้ครบ ถ้าออกเสียงครบก็จะช่วยให้สะกดได้ถูกต้องตอนเขียนด้วย เช่น svenskt ให้ออกเสียงให้ครบว่า สเว้นสึคึทึ ... โอยๆ นังยุ้ยจะบ้าค่ะ ลิ้นไม่ไป ทำไมไม่รู้นะ อาจจะเป็นแบบนี้คนเดียว หรือไง? คนอื่นเป็นหรือเปล่าไม่ทราบนะคะ ... และอีกเรื่องก็เวลาพูดก็พูดให้ชัดถ้อยชัดคำ เสียงดังฟังชัด มั่นใจหน่อย ... อดทนอดกลั้น ให้ซานต้าติติงไป ด้วยใจหวังอยากได้ดีกะเค้า...


อ๊ะ... เรื่องนี้ยังไม่จบแค่นี้ค่ะ มีเคล็ด(ไม่)ลับกับคำถามเด็ดๆ ที่ควรรู้ไว้ใช้เพื่อพัฒนาทักษะการพูดค่ะอีก

 

โปรดติตามตอนต่อไปค่ะ...(มาพัฒนา "การพูด" กันค่ะ ตอน 2)

 

ยุ้ย

มกราคม 2554

 

 

 

<< Back

Go to top
© 2011 All rights reserved. Yui in Lund@Sweden. Thai Experiences : Diary : Swedish : Photos : Hot info : Links : Guest book
eXTReMe Tracker