Yui in Lund

Study in Sweden - ชีวิตการเรียนในสวีเดน

เรื่องเล่าประสบการณ์เรียนภาษา, กับโครงการต่าง ๆ, มหาวิทยาลัย, เทียบวุฒิในสาขาวิชาชีพต่าง ๆ และนานาสาระที่เกี่ยวข้อง

<< Back


เส้นทางสู่การเป็นพยาบาลในสวีเดน ตอนที่ 2

ไปโรงเรียนวันแรก...

พอเริ่มวันแรก มีการปฐมนิเทศ และให้นักเรียนทุกคนแนะนำตัว รวมทั้งแนะนำครูประจำชั้น ครูใหญ่ ครูทุกคน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในหลักสูตรนี้ มีการถ่ายรูปนักเรียนทุกคน และปริ้นแจกนักเรียน และครู จะได้รู้จักชื่อ-นามสกุลของนักเรียนแต่ละคน และรู้ว่ามีหน้าตาเป็นยังไง

 

 

อาทิตย์แรกของการไปโรงเรียน ไปถึงก็โดนสอบสัมภาษณ์โดยครูแต่ละวิชา เป็นการสอบปากเปล่าทั้งวิชาหลักการพยาบาล วิชาการพยาบาลดูแลผู้ป่วยอายุรศาสตร์ ศัลยศาสตร์ จิตเวช จริยธรรม รวมทั้งคณิตศาสตร์ โดยเข้าไปสอบตัวต่อตัวกับครูทีละคน คนละ 15 นาที เป็นอะไรที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนเลยว่าจะมีการสอบแบบนี้ด้วย เพราะไม่รู้ตัวมาก่อนว่าจะได้เรียนคอร์สนี้ ได้จดหมายเรียกตัววันพุธ ตอนนั้นเพิ่งนั่งเรียน SAS G ได้ 6 อาทิตย์เอง แล้ววันจันทร์เริ่มเรียนเทียบวุฒิที่ Borås เลย วิชาศัพท์ทางการแพทย์ภาษาสวีดิชก็ยังไม่เคยเรียน พอเจอคำถามแต่ละคำถามต้องนั่งนึกถึงสมัยเรียนที่เมืองไทย งัดเอาความรู้เดิมมาตอบ ตอบได้มั่ง ไม่ได้มั่ง ตอบเป็นสวีดิชไม่ได้ ก็เอานอร์วีเจียน ละติน และอังกฤษมาช่วย ครูก็ใจดีฟังรู้เรื่องอีก ตอนสอบคณิตศาสตร์ ครูตรวจแม้กระทั่งกระดาษคิดเลข ดูวิธีคิดของเราว่าเราคิดยังไง ถึงได้คำตอบมาแบบนี้

ผ่านการปฐมนิเทศ และเรียนไปได้ 1 อาทิตย์ คราวนี้ส่งไปฝึกงานที่โรงพยาบาล Borås 1 เดือน เพื่อประเมินผลเลยว่า เรามีความสามารถทางการพยาบาลมากน้อยแค่ไหน มีเพื่อนคนนึงฝึกงานได้แค่ 2 อาทิตย์ โดนยกเลิกกลางคัน เพราะไม่ผ่านประเมินระหว่างฝึกงาน ส่วนพวกเรายังคงฝึกงานไปจนครบกำหนด แล้วมารอฟังผลว่า จะได้เรียนต่อไหม?

วันนั้นมีเรียนภาคเช้า แล้วรอฟังผลภาคบ่าย ทุกคนใจตุ๊มๆ ต่อมๆ นั่งกันไม่ติด ครูเรียกไปบอกทีละคนว่า จะได้เรียนต่อไหม? ทำเอาพวกเราเครียดตามๆ กัน ไปๆ มาๆ ครูและเจ้าหน้าที่ของ Arbetsförmedlingen เข้าประชุมกันอีกทีว่าจะเอายังไงกับพวกเราดี สรุปออกมาว่าทุกคนได้เรียนยกห้อง เพื่อนๆ ดีใจกันยกใหญ่ เฮกันลั่นห้อง มีเราคนเดียวหงอยเลย ก็เรายังไม่พร้อม และยังไม่อยากเรียนเลย มันเร็วเกินไปสำหรับเรา สวีดิชเพิ่งได้เรียนนิดเดียวเอง

ครูใหญ่มาแสดงความยินดีที่ทุกคนผ่านและได้เข้าเรียน และมาถามหานักเรียนที่พูดนอร์วีเจียนคือคนไหน? เพื่อนๆ รีบบอกว่าเรานี่ไง เลยเข้าไปคุยกับครูใหญ่ว่า แล้วหนูจะเรียนได้เหรอคะ สวีดิชยังเรียนไม่ถึง SAS B เลย ครูใหญ่บอกได้สิ เดี๋ยวสวีดิชมันมาเอง และให้กำลังใจเราน่าดู ตกกะได พลอยโจนได้เรียนกับเขาไปด้วย

 

 

มาฟังกันต่อค่ะ

เมื่อก่อนนี้ทั้งหมอและพยาบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ในสายการแพทย์ เมื่อเข้ามาอยู่ในสวีเดนก็ยังทำงานที่ตัวเองเคยทำไม่ได้ ต้องเริ่มหางานต่างๆ เพื่อให้มีรายได้ เป็นที่น่าเสียดายความรู้เดิมที่ไม่สามารถนำมาใช้ได้ทันที บางคนไปเริ่มงาน เช่น งานในครัว ตามร้านอาหาร ร้านขายของ โรงงาน งานทำความสะอาด หรืองานทั้งหลายที่สามารถทำรายได้ให้ได้ งานเหล่านี้ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ถ้าเค้าสามารถเอาความสามารถที่มีอยู่มาทำงานให้ตรงกับงานที่เคยทำ มันได้ประโยชน์มากกว่า เนื่องจากสวีเดนยังขาดบุคคลากรทางการแพทย์มาก

มาเข้าเรื่องต่อดีกว่า

เพื่อน ในชั้นแต่ละคนเค้าเรียนตามขั้นตอน ตั้งแต่ SFI จนถึง SAS B หรือ Sjukvård Svenska มา ภาษาเค้าก็ดีกว่าเรา แถมเค้ายังมาอยู่สวีเดน กันตั้งแต่ 3-17 ปี ไอ้เราเพิ่งมาได้ 8 เดือน และได้ไปโรงเรียนเรียนสวีดิชแค่ 3 เดือนเอง... เอาน่า บอกตัวเอง ใครๆ ก็ให้กำลังใจ เรียนก็เรียน เริ่มเรียนแรกๆ ยังไม่เท่าไหร่ รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ถูๆ ไถๆ ไป แต่พอเริ่มมีการเขียนรายงาน ทำวิจัย สัมมนาและรายงานต่างๆ หน้าชั้น มันยากขึ้นเรื่อยๆ หนังสือก็เยอะมาก แต่ละเล่มก็หนาๆ ทั้งนั้น

นักเรียนในชั้นมี 20 คน มาจาก อเมริกา รัสเซีย เยอรมัน โรมาเนีย เกาหลี ฟิลิปปินส์ อิหร่าน อิรัก เราเป็นคนไทย หัวเดียวกระเทียมลีบไม่มีเพื่อนคนไทยในชั้นเลย เพื่อนสนิทในชั้นชาวฟิลิปปินส์ก็ให้กำลังใจและกระตุ้นตลอดว่า เราต้องทำได้ เราต้องเรียนจบไปด้วยกัน เพื่อน คนอื่นในชั้นทุกคนส่วนใหญ่ก็มีปัญหาเรื่องภาษาทั้งนั้น แต่สำหรับเราเป็นคนที่เรียนสวีดิชน้อยที่สุดในชั้น มันเลยยากสำหรับเรามากกว่าเพื่อนๆ ถึงความรู้ทางการพยาบาลและประสบการณ์ของเราจะไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร แต่ภาษานี่แหล่ะที่ทำให้เราหนักใจ

วิชาที่เรียนก็เหมือนๆ กับที่เคยเรียนที่เมืองไทย แต่ที่นี่เรียนละเอียดมาก หนังสือแต่ละเล่มก็ให้เวลาอ่านนิดเดียว แถมยังมีเล่มโตๆ หนักๆ หลายเล่มด้วย มีหนังสือตำรายาเล่มนึงหนัก 3 กิโลครึ่ง อีกเล่มนึงหนัก 2 กิโล ทั้งหอบทั้งแบกใส่เป้ กลับบ้านมาหลังและแขนล้าไปเลย

 

กลุ่มเพื่อนสนิทสาวอเมริกาและฟิลิปปินส์

 

วิชาที่เรียนทั้งหมดมีหลายวิชาที่เคยเรียนมาแล้วจากเมืองไทย บางวิชาก็ใหม่สำหรับเรา เช่น กฏหมายในสวีเดน พร้อมด้วยได้หนังสือมาเล่มโตมา ยังกะจะให้เราเป็นนักกฏหมายซะด้วยแน่ะ

การเรียนในแต่ละวิชา ต้องอ่านเองทั้งหมด เพราะเป็นหลักสูตร Distance เรียนและอ่านเอาเองที่บ้าน นานๆ ก็มาฟังเลคเชอร์ หรือมาสัมมนาและรายงานผลการวิจัยทีนึง ส่วนใหญ่จะเป็นการบ้านที่ครูให้มา ทั้งรับและส่งการบ้านก็ทางเวปไซค์ของโรงเรียน จะติดต่อหรือซักถามอะไรครูก็ใช้ทางอินเตอร์เนตนี่แหล่ะ บางช่วงก็เรียนกันผ่านจอทีวี ครูก็สอนอยู่ที่ ร.ร. ที่ Borås แต่พวกเรานั่งเรียนที่ห้องเรียนใน Göteborg ซักถามครูผ่านจอไฮเทค เหมือนกับที่เมืองไทยเรียนผ่านดาวเทียมกับครูตู้นี่แหล่ะ

การเรียนในห้องเรียนจะมีนานๆ ครั้ง บางช่วงเรียนเต็มวันทั้งอาทิตย์ บางช่วงก็อยู่บ้าน อ่านหนังสือ และทำรายงานเอาเอง ถ้าเป็นวิชาการปฏิบัติการพยาบาลก็ไปเรียนและสอบภาคปฏิบัติที่โรงเรียน

 

พี่เหมียว

เขียนเล่าเรื่องไว้เมื่อ มกราคม 2551

 

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ...

 

 

 

<< Back

Go to top
© 2010 All rights reserved. Yui in Lund@Sweden. Thai Experiences : Diary : Swedish : Photos : Hot info : Links : Guest book
eXTReMe Tracker