การทำใบขับขี่ในประเทศสวีเดน (ตอนจบ)
สถานะภาพหลังจากได้ใบสีชมพูมาครอบครอง
ในวันที่สอบภาคปฏิบัติเสร็จเค้าก็จะบอกทันทีว่า คุณผ่านหรือไม่ผ่าน แล้วใบที่เค้า เขียนๆ ขีดๆ นั้น เราจะได้มาเป็นใบแทน หรือ ประมาณ ใบเหลือง สมัยก่อนเวลาเรารอบัตรประชาชนตัวจริงอ่ะค่ะ ประมาณ 1 อาทิตย์ เราก็จะได้ "ใบสีชมพู" มานอนกอด หลังจากที่ตรากตรำ เลือดตาแทบกระเด็น ชื่นใจจริงๆ
(เสริมนิด - ลืมไปหนึ่งเรื่อง ซึ่งจริงๆ สำคัญเหมือนกัน ก็คือ วันที่สอบทฤษฎีนั้น เราจะต้องไปถ่ายรูป ด้วยตู้อัตโนมัติ ก่อนเข้าสอบเพราะฉะนั้นต้องไปก่อนประมาณ 30 นาที แต่งตัว สวยงามตามอัธยาสัย แต่งหน้าแต่งตาไปด้วยยิ่งดี เค้าจะให้เราถ่ายได้ 3 รูป เราเลือกรูปที่ดูดีสุด ถึงมันจะเป็นรูปขาวดำแต่เราจะมีบัตรใบนี้ไปอีก 10 ปี จึงควรพยายามให้ดีที่สุด นะคะ ฮ่ะๆๆๆๆ)
ก็จริงๆ หลังสอบนั้น เราก็ขับรถได้โดยไม่ต้องมี ป้าย övningskör ติดหลังรถอีกต่อไปแล้ว ตอนแรกมันก็รู้สึก ดีใจ วี๊ดว้าย... คนโทรมาแสดงความยินดี พรึ้บพรับ มันก็ภูมิใจ แต่พอไปนั่งหน้าพวกมาลัยครั้งแรกคนเดียว มันก็รู้สึก กลัว...... บอกตรงๆ ตามความรู้สึกของคนไม่เคยมีประสบการณ์ขับรถในเมืองไทยมาก่อนว่า กลัวจริงๆ ค่ะ เพราะต่อไปจะมีแต่เราที่ต้องรับผิดชอบต่อ ชีวิตตนเอง คนที่โดยสารไปกับเรา และ คนขับรถอื่นๆ คนเดินถนน เตือนตัวเองเสมอๆ ว่า ระวัง มีสติ อย่าประมาท อย่าใจลอย อย่าเลินเล่อ เรื่องป้ายจราจร สัญญาณไฟ พยายามออกไปขับให้บ่อยๆ อย่าทิ้งไว้นานเกินไป เพื่อจะได้ชิน และ ขับรถอย่างเป็น อัตโนมัติ ตอนนี้ส่วนตัวรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ไม่กลัว แต่ยังต้องเตือนตัวเองว่า ชินแล้วก็อย่าประมาท อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความประมาท
ก็จะเล่าถึง "ข้อดี" ของการมีใบขับขี่กันบ้าง อย่างแรกที่รู้สึกคือ ความอิสระ.....จะไปไหน ก็ไม่ต้องรอแฟน รอรถเมล์หรือรถไฟ ให้เสียเวลา เวลาไปทำงานไกลๆ บ้าน งานครูสอนเด็กนอกตัวเมือง ที่บางครั้งต้องเดินเท้าเป็นกิโล ก็ช่วยได้มากๆ จริงๆ เวลาใครต้องการความช่วยเหลือให้ไปส่งที่นั่น รับที่นี่ ก็สามารถทำได้ รู้สึกว่า ประหยัดเวลา และชีวิตมีอิสระมากขึ้นจริงๆ
อีกเรื่อง คือ ในส่วนของการสมัครงาน ส่วนมากในการสมัครงาน คุณสมบัติของการมีใบขับขี่เป็นข้อหนึ่งที่จะทำให้เราได้งานทำ หรือ ไม่ได้งานทำ ดังนั้นการมีใบขับขี่จึงเป็นข้อได้เปรียบของผู้สมัครงานนะคะ
ส่วน "ข้อเสีย" ก็มีบ้าง ขอกล่าวถึงนิดนึง เพราะทุกอย่างย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ข้อเสียก็คือ เป็นภาระด้านการเงิน สำหรับคนที่ต้องเสียเงินเอง อย่างตอนนี้น้ำมันแพงระห่ำมาก ไม่รู้จะแพงไปไหน ทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หากรถเสีย ต้องเปลี่ยนโน่นนี่ เปลี่ยนล้อ ค่าประกัน ซ่อมโน่นนี่อีกจิปาถะ มันเริ่มจะเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องดูแลรักษาและจัดการรถเอง ในกรณีที่มีรถส่วนตัว ก็ทำให้รู้สึกว่าภาระมันเพิ่มขึ้นเยอะพอสมควร
อีกข้อก็คือ ถูกใช้งานบ่อยขึ้น เช่น ไปจ่ายตลาด ไปรับลูกจากกิจกรรมต่างๆ ไปช่วยนั่นนี่ ไปรับนั่นนี่ สมัยก่อนไม่ใช่หน้าที่เรา เพราะเราขับไม่ได้ ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ก็เป็นอะไรที่ทำได้นะคะ แค่บ่นๆ ขำๆ โหะๆๆๆ
แต่สรุปแล้ว การมีใบขับขี่สำหรับคนที่คิดว่ามีความจำเป็น หรือ อาจจะมีความจำเป็นซักวันนึง การมีไว้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย มันเป็นเหมือนกับการลทุน เพื่อไห้ได้มาซึ่งกำไรในอนาคตนั่นเอง
แม่ปอนด์ ณ เซอร์เดอเทลเย่
6 เมษายน 2555
|