Car license in Sweden - ใบขับขี่ในสวีเดน

รวมเรื่องเล่าเกี่ยวกับวิธีการ เทคนิคต่างๆ ที่น่ารู้เกี่ยวกับการทำใบขับขี่ในสวีเดน และลิ้งค์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

เรื่องเล่าเมื่อคราวสอบขับรถ

มีเวลามาเล่าแล้วค่ะสำหรับการสอบขับรถที่สวีเดน หลังจากที่เพื่อนๆ ถามกันเข้ามา
เหตุการณ์ในวันที่ 29 พค. 2549 คือวันสอบขับนั้นมีฝนตกพรำๆ เมื่อไปถึง Vägverket
(กรมขนส่งของเมืองมาลเม่อร์) โดยรอผู้คุมสอบที่ลานจอดรถสำหรับผู้ที่มาสอบขับโดยเฉพาะ
วันนั้นตื่นเต้นนะ ไปก่อนเวลานัด 15 นาที ขี้จะแตก เยี่ยวจะราดให้ได้ เลยรีบวิ่งไปปลดเปลื้องออกอย่างรวดเร็ว
เสร็จแล้วก็มานั่งรอต่อด้วยใจระทึก พร้อมทั้งระลึกถึงคุณพ่อแก้วแม่แก้ว
สักพักก็ได้เจอกับผู้ที่มาคุมสอบเรา เป็นผู้หญิงค่ะ ชื่อแอนนิก้า
หลังจากตรวจบัตรประจำตัวประชาชนเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
หล่อนก็แสดงหัวข้อที่จะทดสอบเราว่ามีอะไรบ้าง เราก็รีบบอกกล่าวเล่าแจ้งเลยค่ะ
ว่าภาษาของอิฉันยังไม่แข็งแรง (ตั้งแต่อยู่มาก็เกือบจะเข้า 2 ปีแล้วแร่ะ แต่ภาษายังไม่กระเตื้องเท่าไหร่
จบ sfi. ออกมาได้ก็แบบกระดึ๊บๆ อ่ะ)
เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ขอให้ใช้ภาษาง่ายๆ กับอิฉันนะคะ ขอร้อง

หลังจากนั้นเราก็พยายามเงี่ยหูฟังหล่อนจะออกคำสั่งมาค่ะ
ว่าต้องการจะให้เราทำ และเช็คความพร้อมก่อนขับอย่างไรบ้าง
(เพราะเราได้เตรียมท่องมา เพื่อจะนำเสนอหล่อน ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้น อิอิ)
หล่อนถามว่าเช็คความปลอดภัยภายนอกตัวรถ และเครื่องยนต์เป็นไหม?
ลาวรีบตอบออกไปอย่างยืดๆ หน้าแจ่มๆ ว่าแน่นอนฉันทำได้ อิอิ
(เพราะครูที่โรงเรียนสอนขับบอกมาว่า ต้องแสดงให้เขาเห็นว่า
เรามีความมั่นใจและทำได้ ส่วนจะถูกหรือผิดค่อยว่ากัน)
หล่อนเลยบอกว่างั้นเช็คความพร้อมก่อนขับภายในตัวรถก็แล้วกัน
เพราะวันนี้ฝนตก ถ้าขืนออกไปยืนเช็คดูรถข้างนอกคงจะไม่สนุกแน่
เหอๆ ก็เข้าทางลาวเลยค่ะ เราก็เจื้อยแจ้วเจรจา
อย่างที่ท่องมาแล้วอย่างนกแก้วนกขุนทองแบบเด๊ะๆ ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
หลังจากนั้นก็เริ่มถอยรถออกจากที่จอด แล้วก็ขับวนในตัวเมืองมาลเม่อร์ได้สักพัก
หล่อนก็บอกว่าเราจะขับออกไปใช้เส้นทางถนน E6 เข้ามอเตอร์เวย์ไป Trelleborg
ขับไปได้สักพักหล่อนก็บอกให้เปลี่ยนเส้นทางขับ ใช้ถนนหมายเลข 11 ไป Simrishamn.
ซึ่งเป็นทาง Mortortrafikled คือถนนที่ใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 90 กม/ชม.

เราก็ขับไปเรื่อยตามที่หล่อนต้องการ และบอกมา พอไปได้อีกสักพัก
หล่อนก็บอกว่าเราจะออกไปอีกเมืองหนึ่ง (หล่อนบอกชื่อเมืองมา)
ให้เรามองหา และไปตามป้ายบอกนั่นแร่ะ (แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว)
มันจะเป็นเส้นทาง Landsväg (เส้นทางชนบทนอกตัวเมือง ซึ่งถนนแคบๆ และคดเลี้ยว)

ระหว่างนี้เราก็เริ่มชวนหล่อนคุยเพื่อสร้างควมหนิด หนม และคุ้นเคย อิอิ
(เพราะความตื่นเต้นเริ่มหายไปแล้ว บางส่วน) ขับไปได้สักพักหล่อนบอกให้เราหาที่กลับรถ
เพื่อเราจะขับกลับเข้าในตัวเมืองกันอีกครั้ง หลังจากกลับรถแล้วเราก็มองหาป้ายบอกทาง
ไป Centrum ขับตามป้ายบอกทางมาเรื่อยๆ จนเข้ามาถึงตัวเมือง ผ่านทางแยก หรือ วงเวียน
หล่อนก็บอกให้เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา ตรงไป จนกระทั่งกลับเข้ามาถึงที่ทำการกรมขนส่งอีกครั้ง
รวมเวลาทดสอบ 45 นาทีโดยประมาณ เสร็จจากการจอดรถและทำการดับเครื่องยนต์แล้ว
หล่อนก็บอกว่าผลการสอบขับวันนี้ของเราผ่านนะ เราก็อยากฟังซ้ำ ห๊า...เธอว่าอะไรนะ ดีจัยค่ะ ดีจัย
เหอ ๆ หลังจากที่เซ็นต์ ยิกๆ รับกระดาษซึ่งเป็นใบรับรองแทนการใช้ใบขับขี่ตัวจริง
ที่เขาจะส่งมาให้ทีหลังแล้วนั้น ลาวก็ไหว้ขอบคุณฝรั่งไปงามๆ นึงที และก็รีบกดโทรหาสามีให้มารับ
พร้อมทั้งบอกให้เอาเค้กที่คุณเธอทะลึ่งดันซื้อไว้ก่อนตั้งแต่เช้าตรู่
เพื่อนำไปขอบคุณให้ครูที่โรงเรียนสอบขับฯ ติดมือมาด้วย
(มีสามีจอมวางแผนค่ะ เขาว่าถ้าเราสอบไม่ผ่านเค้กที่ซื้อไว้ เขาก็จะได้กินงัย ฮ่าๆ)
งานนี้คุณเธอเลยชวด ฉลู ขาล เถาะ อดกินเค้กที่อุตส่าห์ซื้อมาจ้อย หุหุ
เด๋ววันหน้าจะมาพร่ามต่ออย่างละเอียดเรื่องของการเช็คความปลอดภัยภายนอก - ภายในตัวรถ
และเครื่องยนต์ ก่อนการขับขี่ พร้อมทั้งหัวข้อที่ทาง Vägverket ต้องการทดสอบ
เพื่อใช้เป็นแนวทางสำหรับผู้ที่สนใจ และกำลังเตรียมตัวจะไปสอบขับในขณะนี้ค่ะ

ปล. ก่อนจากลากันไปในวันนี้ ขอไว้อาลัยให้แก่จักรยานคู่ใจของลาว
ซึ่งเหตุเกิดเมื่อตอนเที่ยงของวันนี้วันที่ 2 มิย. 2549
เราวิ่งลงไปข้างล่างกะออกซิ่งปั่นไปซื้อของที่ตลาดปลาท่าน้ำใกล้บ้าน
โอ๊ะ....โอ ใจหวิวๆ มองหาอีแหล่บ่พ้อ เพราะแม่นางโดนลักพาตัวไปแล้ว ....
จักรยานโดนขโมยไปแล้น....แป่วววว....เศร้าจัง อีแหล่น้อยของเจ้ยไปซะแหล่ว....
จักรยานหายไปจริงๆ ค่ะ เพิ่งจะดีใจมาหยกๆ กับการได้ใบขับขี่
แต่ต้องมาเสียความรู้สึก กับเรื่องจักรยานหาย เฮ้อ...
กลายเป็นอะดูดไปเสียแล้ว อีแหล่ที่เคยโสตาย ไปไหนไปกัน ... เศร้านะ

เล่าไว้โดย - เจ้ย

จาก - http://lamai28sweden.spaces.live.com