Yui in Lund

Work experiences in Sweden - ประสบการณ์ทำงานในสวีเดน

เรื่องเล่าประสบการณ์ทำงานจากหลากหลายสาขาอาชีพ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและน่าสนใจ

<< Back


ทำความสะอาดมันจะยากแค่ไหนกันเชียว? ... ตอนจบ

ทำงานวันแรกใช้เวลา 9 ชั่วโมงครึ่ง เริ่มงาน 8 กลับบ้าน 17.30 ลืมบอกไปมีเวลาพักกินข้าว 10 นาที เพราะกลัวงานไม่เสร็จ จริงๆ ทำงานที่นี้พักตอนไหนก็ได้ตามใจเรา ทำงานคนเดียวไม่มีเพื่อนร่วมงาน สบายตรงนี้แหละ พอกลับถึงบ้านอาบน้ำ กินข้าวแล้วนอนเลย แต่นอนไม่หลับเพราะว่า เส้นตึงไปหมดทั่วร่างกาย มือบวม ขาบวม กว่าจะนอนหลับได้เกือบตีสาม

พอตื่นเช้ามามือบวมกำมือไม่ได้ ต้องนวดประมาณเกือบสิบนาทีถึงจะเริ่มยุบแล้วก็เคลื่อนไหวได้ปกติ ที่นี้ได้รู้ซึ้งถึงคำเพื่อนเตือนแล้วว่างานหนักนะตัวเอง 555 นี่แค่วันแรกจะยอมแพ้แล้วเหรอ ก็มีแรงฮึดสู้ทำต่อไปจนได้เงินเดือนๆ แรก หลังหักภาษีแล้วก็ได้ประมาณ 17,100 kr ที่ได้มากหลังหักภาษีเพราะว่าเริ่มงานตอนปลายเดือนเมษา 5 วัน ดีใจมากๆ ความเจ็บปวด ความเมื่อยล้า ความท้อแท้ต่ออุปสรรคของจิตใจตัวเอง มันหมดไปเลย ส่วนปัญหาอุปสรรคในการทำงานก็มีบ้าง เช่น ม๊อบมีกลิ่นแล้วเราไม่เปลี่ยน เพราะไม่รู้ว่าต้องเปลี่ยน 555 จริงๆ แล้วลืมไปกลัวทำงานไม่ทันเวลา เช็ดกระจกไม่สะอาด ก็จะมีแค่นี้แหละที่โดนร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่ นอกนั้นด้รับคำชมว่ายิ้มแย้มแจ่มใส ตลอดเวลาทำงานสะอาดกว่าพนักงานทำความสะอาดคนอื่นที่เค้าเคยมีมา อันนี้ฟังจากระดับบอสและระดับหัวหน้าในสำนักงาน เค้ามาพูดให้ฟังเลย

... พอดีชอบพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ในสำนักงานเพื่อพัฒนาภาษาสวีดิชของตัวเอง เป็นคนไม่อายในการพูดสวีดิชทั้งๆ ที่พูดไม่ถูกแกรมม่าเลยจนถึงปัจจุบันนี้ นี่คงเป็นข้อดีของตัวเอง เจ้าหน้าที่ในสำนักงานเค้าก็ไม่เชื่อว่าอยู่แค่เจ็ดเดือนสามารถพูดได้ขนาดนี้เค้าชมว่าเก่ง ก็ได้แต่ยิ้ม ดีใจกับความกล้าของตัวเอง

 

 

ทำความสะอาดที่แรกได้สองเดือน ต้องเริ่มไปทำที่ที่สองคือ Be a grupp อยู่ไม่ไกลจากที่แรก พอเริ่มทำสองที่ ร่างกายเริ่มไม่ไหว เช่น มือก็ยังบวมอยู่ทุกวัน และชาตามปลายนิ้วมือ หลังเริ่มเจ็บจากการลุกๆ นั่งๆ ก้มๆ เงยๆ หัวเข่าสองข้างก็เจ็บ ข้อเท้าสองข้างก็สลับกันอักเสบ บางวันต้องพันข้อเท้าไปทำงานเดินกระเผลกๆ ทำงานไป เดินเจ็บไป แต่ไม่เคยลาหยุดเลยนะ แต่มีบ้างขอหัวหน้างานไปสอบ หรือไปโรงพยาบาลพอดีมีซีสที่หน้าอก หมอเรียกไปตรวจแล้วก็เจาะซีสวันนั้นเลย เสร็จแล้วก็มาทำงานต่อ เจ็บระบมไปหมดเลย

.... บางวันทนไม่ได้ก็ร้องไห้กับตัวเองนะว่าเราทำไมต้องมาทนลำบากขนาดนี้ อยู่เมืองไทยก็ไม่ได้จะลำบากอะไร งานการก็ดี ครอบครัวก็ดี ดิ้นรนมาทำไมกันเนี่ย? เริ่มท้อ แต่ก็นึกให้กำลังใจตัวเองให้มองคนอื่นที่ลำบากกว่าเรา หรือคนอื่นที่เค้าอยากทำงานแบบเราแต่เค้าก็ยังหาไม่ได้ เลยเลิกท้อแท้

พอทำงานได้สามเดือน เริ่มคล่องแคล่วทำงานเสร็จไวก่อนกำหนด เริ่มเบื่อเพราะนั่งรอเวลาให้หมดไป แล้วงานก็ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นน่าสนใจทำ คือทำแบบเดิมๆ เหมือนกันทุกๆ วัน แต่ก็ทนทำมาเรื่อย ถึง 5 เดือน ลืมบอกไปว่าสัญญาทำงานแค่ 6 เดือน พนักงานประจำเริ่มกลับมาทำงาน และไม่มีที่ทำงาน เหลือเราคนเดียวที่เป็นพนักงานทดลอง แล้วบริษัทก็ขาดรายได้ อันนี้หัวหน้างานอ้างให้ฟัง จำเป็นต้องเลือกเราออกทั้งๆ ที่ลูกค้าแต่ละที่ชอบเรามากเพราะทำงานดี แต่ก็เข้าใจในข้ออ้างของเค้า ก็เลิกทำงาน ความจริงแล้วอยากเลิกมานานแล้ว เพราะร่างกายมีปัญหาเยอะมาก สงสารตัวเอง แต่อยากได้ตังค์ใช้เอง ทั้งๆ ที่สามีก็ให้เลิกทำ เพราะสงสาร แต่เราไม่อยากแบมือขออย่างเดียว มันภูมิใจมากกว่าที่สามารถหาเงินใช้เองได้

ปัจจุบันนี้ก็ส่งใบสมัครไปสมัครตำแหน่ง จนท.ธุรการ กับ จนท.บันทึกข้อมูล ตามประสบการณ์จากเมืองไทย ส่งไปหลายที่มากแต่ก็ได้รับคำตอบเดียวๆ คือ เสียใจด้วยนะเรามีคนแล้ว อยากทำงานเกี่ยวกับคีย์ข้อมูลตัวเลขเพราะสามารถคีย์ได้เร็วมาก แต่คงยากเพราะต้องแข่งขันกับคนเก่งๆ ของเค้าที่นี่ ก็เริ่มหาที่ฝึกงานด้านอื่นๆ เช่น ฝึกงานที่บริษัททำซูชิสำเร็จรูปส่งขายตามห้างต่างๆ ฝึกได้สองเดือนก็ขอหยุดเพราะรู้ว่านายจ้างไม่มีวันจะจ้างเราแน่ๆ เพราะมีคนฝึกงานก่อนหน้าเราฝึกมาแล้วสองครั้งรวมแปดเดือนนายจ้างยังไม่ทำสัญญาจ้างเลย ก็กลับมาเรียนหนังสือต่อแต่เรียนแค่ตอนเย็น แล้วก็หาที่ฝึกงานใหม่ คือร้านอาหารเอเชียชื่อ "มิสไซง่อน" ก็ได้แต่หวังว่านายจ้างจะจ้างทำงานต่อถ้าเราทำงานได้ดี

ทั้งหมดที่เล่ามานี้จากประสบการณ์โดยตรงของตัวเอง อาจจะช่วยเป็นข้อมูล ความรู้ สำหรับผู้ที่จะเริ่มหางานทำ หรือคิดจะหางานทำ อาจช่วยได้บ้างนะค่ะ ... ดีใจที่ได้แบ่งประสบการณ์จ้า

 

พี่แจง
ร่วมแบ่งปันเรื่องราวไว้เมื่อ ตุลาคม 2553

 

Q: รบกวนพี่แจงช่วยเล่าเกี่ยวกับ "โครงการ instegjobb" หน่อยค่ะ

A: โครงการ instegsjobb เป็นโครงการของ Arbetsförmedlingen (AF) เพื่อช่วยเหลือคนต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ในสวีเดน และยังเรียน SFI ไม่จบ โดยนายจ้างจะทำข้อตกลงกับ AF ว่าจะจ่ายเงินเดือนให้เรากี่เปอร์เซ็นต์ ยกตัวอย่างเช่น ถ้านายจ้างจ่าย 25% AF จะจ่าย 75% อันนี้ไม่แน่ใจว่าขึ้นอยู่กับชั่วโมงการทำงานของเราหรือไม่ แต่กรณีของตัวเองไม่ได้ถามเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานว่าเค้าจ่ายกี่เปอร์เซ็นต์ แล้วนายจ้างจ่ายกี่เปอร์เซ็นต์

ตารางทำงานของตัวเองทำงานจันทร์ถึงศุกร์ 38 ชั่วโมง เสาร์-อาทิตย์ วันละ 1 ชั่วโมง รวม 40 ชั่วโมง โดยทำอาทิตย์เว้นอาทิตย์ ทำเสาร์-อาทิตย์บริษัทก็จ่ายเงินพิเศษ เพิ่มจากค่ารายชั่วโมงปกติด้วย เงินเดือนได้เดือนละ 17,800+เงินพิเศษ

 

 

 

<< Back

Go to top
© 2010 All rights reserved. Yui in Lund@Sweden. Thai Experiences : Diary : Swedish : Photos : Hot info : Links : Guest book
eXTReMe Tracker