แทนคำขอบคุณ ตอนที่ 1
งานฉลองร่วมยินดีกับความสำเร็จผ่านพ้นไปแล้ว พร้อมกับความประทับใจ ไม่รู้จะขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ ยังไง ขอมานั่งโม้ให้ฟังละกันนะคะ (เล่นง่ายเนาะ)
อันดับแรก ความสำเร็จที่ว่ามันคืออะไรหรือ
มันคืออะไรยังเรียกภาษาไทยไม่ถูกเลยค่ะ เพราะบ้านเราไม่มี (เขาจะยึดใบคืนไหมเนี่ยะ) ถ้าเทียบก็คล้ายๆ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตของไทย แต่ชื่อนี้เราก็ไม่ค่อยคุ้น ส่วนใหญ่ภาษาพูดเราจะเรียก CPA แต่กรูดว่าถ้ากรูดจะเรียกตัวเองว่า ล่ามที่ได้รับอนุญาต แล้วคนอื่นๆ ล่ะ เขาไม่ได้รับอนุญาตหรือไง เลยไม่ค่อยชอบคำนี้ค่ะ กรูดชอบคำว่า “ล่ามที่ผ่านการรับรอง” หรือ “ล่ามที่ได้รับการรับรอง” มากกว่าค่ะ ฟังดูเป็นกลางๆ ไม่มากไป ไม่น้อยไป
และมันพิเศษยังไง
มันพิเศษตรงที่ว่ามันได้ค่าจ้างมากขึ้น อิอิ พูดเล่นค่ะ ได้ค่าจ้างมากขึ้นก็เป็นส่วนหนึ่ง ได้งานมากขึ้นก็ส่วนหนึ่ง มีอำนาจต่อรองมากขึ้นก็ส่วนหนึ่ง แต่ที่มันพิเศษคือว่า มันมีหน่วยงานรัฐที่ทำการทดสอบเราแล้ว และเขารับรองคุณภาพเราค่ะ ทำให้ผู้ใช้บริการมั่นใจได้มากขึ้นว่า “สินค้าชิ้นนี้มีใบรับรองคุณภาพ” นั่นไม่ได้หมายความว่าสินค้าชิ้นอื่นๆ ที่ไม่มีใบรับรองคุณภาพจะต้องด้อยกว่าสินค้าที่มีใบรับรองเสมอไปนะคะ เพราะบางทีสินค้าโนเนมดีกว่าสินค้าแบรนด์เนมก็มีค่ะ
อีกสิ่งหนึ่งที่พิเศษคือ ที่ประเทศสวีเดนยังไม่เคยมีล่ามภาษาไทยที่ผ่านการรับรองคุณภาพค่ะ ที่ไม่มีไม่ใช่ว่าล่ามภาษาไทยที่นี่ไม่มีคุณภาพนะคะ แต่เป็นเพราะว่าเขาพึ่งมาจัดสอบภาษาไทยเมื่อสี่ห้าปีที่ผ่านมานี้เองค่ะ รวมจัดสอบไปแล้วสี่ครั้งค่ะ ครั้งที่หนึ่งกรูดไม่ได้สอบ เพราะสมัยนั้นยังไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลยค่ะ ครั้งที่สองกรูดก็ไม่ได้สอบเพราะว่ายังเรียนหลักสูตรล่ามไม่จบ คิดว่าตัวเองไม่พร้อมที่จะสอบ ค่าสอบก็แพงโขอยู่ค่ะ ครั้งละ ๒,๐๐๐ โครนค่ะ พอครั้งที่สามกรูดเลยสมัครสอบ
ก่อนสอบก็อ่านหนังสือ จัดทำสรุปย่อเนื้อหา ไปติวก่อนสอบกับโรงเรียนพร้อมพี่ๆ ที่เรียนรุ่นเดียวกัน แล้วก็ไปสอบ ผลออกมามันขาดคะแนนดิบอยู่ ๑๑ คะแนน จาก ๓๐๐ คะแนน กรูดคิดว่ากรูดน่าจะได้ถูกแต่คนตรวจให้ผิด กรูดก็แย้งไป แต่ก็ไม่ได้คำตอบกลับมาเสียที หนึ่งปีครึ่งหลังจากการสอบครั้งที่สาม เขาจัดสอบครั้งที่สี่ กรูดก็สมัครสอบไว้กันเหนียว เผื่อแย้งไม่ได้ ก็รอคำตอบรอแล้วรอเล่า รอจนถึงวันก่อนสอบก็ไม่ได้คำตอบ ก็เลยไปสอบครั้งที่สี่ ระหว่างที่รอผลครั้งที่สาม
ไปสอบมา ผ่านด่านแรก คือด่านข้อเขียน เป็นคนเดียวที่ผ่านข้อเขียน และก็รอด่านที่สองคือด่านสอบปากเปล่า รอแล้วรอเล่า เขาก็ไม่นัดมาซักที ก่อนฤดูกาลพักร้อนได้รับจดหมายแจ้งมาว่าเขาหาคนมาตรวจข้อสอบไม่ได้ อ้าว ซวยแล้วมั๊ยล่ะ แล้วเขาจะติดต่อมาอีกที ไอ้เราก็หวังว่าจะได้สอบก่อนคลอดลูก เพราะว่าถ้าคลอดแล้ว สมองจะทื่อ เพราะเหนื่อยจากการเลี้ยงลูกสองคน จากการทำงาน จากการอดหลับอดนอนเพราะให้นมลูก
ก็รอ ระหว่างรอก็อ่านหนังสือเตรียมสอบ ทำงาน เลี้ยงลูก
และประมาณปลายเดือนกันยาก็ได้รับจดหมายนัดไปสอบ เขาให้เวลาเตรียมตัวหนึ่งเดือน (ขอเขาไป เพราะเราให้นมลูกต้องการเวลาเตรียมตัวมาเป็นพิเศษ และเขาเป็นฝ่ายล่าช้า เขาน่าจะให้เวลาเราเพิ่ม ปกติเขาให้เตรียมตัวสองอาทิตย์)
แล้วก็ได้เวลาสอบ แล้วก็ผ่านได้เป็นล่ามภาษาไทยคนแรกที่ผ่านการรับรองค่ะ
ที่มันพิเศษสำหรับกรูดและคนใกล้ชิดก็คือว่า การเดินทางนี้มันเป็นการเดินทางที่ยาวนาน และลำบาก ต้องต่อสู้มากถึงมากที่สุด
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
พี่มะกรูด
Thai Tolk.nu | Tolkar | Översätter | Lär Ut
22 พฤศจิกายน 2553
|