เส้นทางสู่การเป็นพยาบาลในสวีเดน ตอนที่ 3
มาฟังต่อได้เลยค่ะ
หินสุดๆ ตอนสอบวิชา Biomedicin วิชานี้เป็นตัววัดเลยว่าใครจะอยู่ใครจะไป ใครผ่านวิชานี้ไม่ได้จะถูกตัดออกจากการเป็นนักเรียนคอร์สนี้ไปเลย การเรียนที่นี่จะตัดเกรด 70%
เราเองสอบครั้งแรกไม่ผ่าน ต้องสอบใหม่ ร้องไห้ไปหลายรอบ ถอดใจไปอีกครั้ง และไม่คิดจะสอบอีกเพราะมันยากจริงๆ ข้อสอบบรรยาย ตอบคำถามเกี่ยวกับโรคต่างๆ การดูแล ป้องกัน รักษา คนไข้โรคต่างๆ เนื้อหาเยอะมาก รู้ทั้งรู้ว่าคำตอบมันคืออะไร แต่ให้มานั่งบรรยายเป็นภาษาสวีดิชเนี่ยนะ มันเขียนไม่ได้น่ะสิ เพราะว่าภาษาสวีดิชด้านการเขียน อ่อนจริงๆ ให้พูดยังดีกว่าอีก เพราะอาศัยนอร์วีเจียนมาช่วยได้ สำเนียงมันใกล้กัน ก็ได้สามีอีกนั่นแหล่ะ ช่วยให้กำลังใจและคอยกระตุ้นให้อ่านหนังสือ คอยเป็นผู้คุม ลำพังตัวเองถ้าไม่มีใคร Support ทั้งร่างกายและจิตใจแบบนี้ คงไม่มีแรงใจสู้แล้ว
ตามกฏเค้าให้โอกาสสอบ 3 ครั้ง แต่ครูใจดีให้สอบได้ทั้งหมด 5 ครั้ง ครูใหญ่ ครูผู้ช่วยครูใหญ่ และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเราจาก Arbetsförmedlingen เรียกไปคุยและก็ให้กำลังใจ บอกว่า ครูเชื่อว่าเธอทำได้ ยังไงเธอก็ต้องสอบผ่าน และให้โอกาสเราสอบไปอีก เป็นถึงครั้งสุดท้าย คราวนี้ถึงคราวขีดเส้นตายแล้ว ถ้าไม่ผ่านต้องโดนตัดสิทธิ์ อดเรียนต่อ โดนเตะออกจากคอร์สนี้แน่ เราก็ตั้งใจเต็มที่ นั่งอ่านหนังสือ ทั้งท่องทั้งฝึกเขียน อ่านแล้วอ่านอีก พยายามทำความเข้าใจและท่องจำให้ได้มากที่สุด
ถ่ายรูปคู่กับครูใหญ่
พอครูส่งผลการสอบมาที่บ้าน เปิดซองจดหมายมือไม้สั่นไปหมด ผลการสอบได้มาด้วยคะแนน 83.5% น้ำตาแห่งความดีใจมันไหลออกมาเลย ดีใจมาก ๆ ๆ ในที่สุดก็ทำสำเร็จ ได้เรียนต่อ ไม่ต้องถูกปลดจากสภาพนักศึกษา เฮ้อ... รอดมาได้ตอนที่เกือบถูกแขวนคอไปแล้ว แต่ก็เสียใจแทนเพื่อน 2 คน ที่สอบไม่ผ่าน อดเรียนต่อและต้องถูกปลดจากคอร์สนี้ไป
วิชาหิน วิชาที่ 2 Farmakologi สอบไปอีกหลายครั้ง แต่ก็ผ่านมาได้อีกด้วยคะแนน 72% เฮ้อรอดตัวไปอีก
วิชาที่ 3 Läkemedelsräkning ตัดเกรด 100 % วิชานี้แหละที่เราทำได้ดีที่สุด สอบได้อย่างไม่น่าเชื่อ ดีใจสุดๆ มิเสียแรงนั่งฝึกคำนวณยาอยู่ทั้งอาทิตย์ก่อนสอบ ตกใจเหมือนกันว่าทำไปได้ยังไง อยู่เมืองไทย ไม่เคยทำเลข หรือฟิสิกส์ ได้คะแนนดีๆ ซักที โดยเฉพาะฟิสิกส์เคยสอบตกด้วยซ้ำไป
วิชาหลักๆ ที่ต้องใช้ความสามารถโดยวัดผลการเรียนจากการสอบข้อเขียนมีแค่นี้ ส่วนวิชาอื่นๆ ก็เป็นการเขียนรายงาน การรายงานหน้าชั้น การปฏิบัติการพยาบาล และการบ้านตอบคำถามต่างๆ หรืองานสัมมนาซึ่งกว่าจะผ่านมาได้ก็อ่านหนังสือกันสมองบวมทีเดียว
ผ่านการเรียนการสอบมาทุกด่านแล้ว ทีนี้ก็เป็นการฝึกงาน ได้ฝึกทั้งที่ โรงพยาบาล, Vårdcentral, ฝึกงานจิตเวช, Hemsjukvård การไปเยี่ยมผู้ป่วยและให้การรักษาพยาบาล เช่น จัดยา เจาะเลือด ฉีดยา ทำแผล ทำการพยาบาลต่างๆ และให้คำแนะนำ วางแผนการรักษาพยาบาลให้ผู้ป่วยตามบ้าน
ประเมินผลการฝึกงานจากพี่เลี้ยงก็ผ่านไปด้วยดี ผ่านหมดทุกที่ ปิดท้ายด้วยการสัมมนาหลังฝึกงาน
รอภาคต่อไปนะคะ...
พี่เหมียว
เขียนเล่าเรื่องไว้เมื่อ มกราคม 2551
Q: พี่เหมียวหาข้อมูลมาจากที่ไหน? ยังไง? สมัครเรียนยังไงค่ะ?
A: ตอนที่พี่ย้ายมาสวีเดนหลังจากได้เลขสี่ตัว ไปสมัครเรียนเอสเอฟอี และสามีก็พาไปรายงานตัวที่ Arbetsförmedlingen (AF) ทางนี้ก็บอกว่าให้ไปเรียนเอสเอฟอีให้จบแล้วมานรายงานตัวใหม่ ของพี่ไม่ได้เทียบวุฒิกับ VHS ค่ะ แต่เทียบกับ Socialstyrelse ในขณะเดียวกันก็ส่งเรื่องไปที่ Socialstyrelse เพื่อให้เค้าดูเอกสารการเรียนจากไทยไปด้วย เค้าก็ตรวจสอบคุณสมบัติของเรา
พอเรียนจบเอสเอฟอี ก็ไปรายงานตัวที่ AF อีกที เค้าก็บอกว่า มีคอร์สเปิดใหม่เหมาะกับพี่พอดี คือเรียนเทียบวุฒิพยาบาลที่ Borås แล้วก็ให้เราส่งใบสมัครเรียน จากนั้นทางบูโรสก็เรียกตัวให้ไปเรียนค่ะ
ก็ดูในเวปของโรงเรียนและสมัครเข้าเรียน ก่อนเรียนก็ต้องไปสอบสัมภาษณ์กับอาจารย์หลายคน กับอาจารย์ของแต่ละวิชา และสอบข้อเขียนรวมทั้งฝึกงานอีกหนึ่งเดือนที่ รพ.บูโรส จากนั้นก็ประเมินผล เมื่อสอบทุกอย่างเสร็จ และสอบผ่านก็ได้เข้าเรียนค่ะ มันมีหลายขั้นตอนมาก จำรายละเอียดถึงวิธีการสมัครไม่ได้แล้ว คงต้องไปหาอ่านในเวปของโรงเรียนกันเอาเอง เพราะไม่รู้ว่าเค้าจะมีกฎหรือเอกสารใหม่ๆ รึเปล่า และแต่ละโรงเรียนอาจไม่เหมือนกัน |
|