หนทางสู่การเป็นผู้ช่วยกุ๊ก ตอนที่ 1
ทางสายนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปีกลาย (2009) หลังจากเรียนจบ SAS B...
ซึ่งก็เป็นปกติเช่นทุกเทอมที่เมื่อใกล้โรงเรียนจะปิดเทอม เหล่านักเรียนก็จะวิ่งกันวุ่นหาหลักสูตรสำหรับเรียนเทอมหน้า ข้าพเจ้าก็เช่นกัน ช่วงหนึ่งอาทิตย์ก่อนเส้นตายปิด ก็เปิดแคทตาล้อกของโรงเรียนต่างๆ รวมทั้งของมหาวิทยาลัยดู ดูแล้วอยากเรียนไปหมด แต่ตัดสินใจไม่ได้ซักที เนื่องด้วยปัจจัยต่างๆ ไม่ได้อำนวยให้กับความอยากนั้นๆ
สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าไปปรึกษากับครูแนะแนวของคอมวุกซ์ บอกความชอบและเส้นทางที่อยากเดินให้เขาฟัง... เผื่อเขาจะช่วยย้ำความต้องการให้ได้ เขาก็ให้คำแนะนำมาหลายอย่าง ให้ที่อยู่เว็บไชต์ต่างๆ มา เราก็มานั่งเปิด นั่งหารายละเอียดเพิ่ม คำนวนค่าใช้จ่าย การเดินทาง และเวลาเรียนแล้ว แต่ก็ตัดสินใจไม่ได้สักที
จนวันหนึ่งเดินผ่านหน้าห้องธุรการ ไปด้อมๆ มองๆ หาหลักสูตรลงทะเบียน ก็อ่านข่าวประกาศอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนมาถึงใบปลิวของ Infoteket อ่านรายละเอียดแล้วน่าสนใจดี เลยเข้าเว็บไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม หลังจากปรึกษาแฟน ปรึกษาแม่แฟน และตัวเองแล้ว ก็ติดสินใจพิมพ์ใบสมัครออกมา กรอกรายละเอียด และหนีบใบระเบียนจากคอมวุกซ์ แล้วเอาไปยื่นที่ Infoteket (ซึ่งตอนนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น VägledningsCentrum แล้ว)
หน่วยงาน VägledningsCentrum นี้มีอยู่ทุกคอมมูน พวกเขาจะเป็นตัวกลางในการแนะแนวทางการศึกษา ให้แก่ผู้สนใจ ผู้ว่างงาน ผู้อยากยกระดับความสามารถของตัวเองขึ้น ไม่ว่าเด็กหรือแก่ จากนั้นก็จะประสานงานกับทางโรงแรียนต่างๆ ซึ่งอาจเป็นของรัฐหรือของเอกชนก็ได้ โดยมีคอมมูนเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ตัวนักเรียนไม่ต้องจ่ายค่าเทอม และมีสิทธิ์ได้เงินช่วยเหลือจากซีเอสเอ็นเหมือนที่อื่นๆ ทุกประการ |
ผู้เขียนเองเรียนที่ Lernia Utbildning AB (http://www.lernia.se) ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนที่มีสาขาอยู่ทั่วสวีเดน และเปิดสอนในหลายๆ หลักสูตร เช่น การก่อสร้าง ช่างเทคนิคไฟฟ้า การทำอาหาร ภาษา และการบริหารและการจัดการ เป็นต้น ท่านสามารถสอบถามครูแนะแนวที่โรงเรียนถึงรายละเอียดคร่าวๆ ได้ ทั้งเรื่องแนวทางการศึกษาและเว็บไซต์ต่างๆ หรือจะค้นหาข้อมูลในกูเกิ้ลก็สะดวกดีเหมือนกัน จากนั้นค่อยนัดพบเจ้าหน้าที่เพื่อการพูดคุยต่อไป
จะว่าไปแล้วหลักสูตรนี้ไม่ใช่สิ่งที่อยากเรียนเป็นอันดับหนึ่งหรอก แต่ที่เลือกเพราะคิดว่ามันใช้เวลาไม่นาน แค่ปีเดียวจบ แล้วก็ (อาจ) หางานทำได้เลย หากไปเรียนในสิ่งที่ชอบต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองหรือสี่ปี ซึ่งอายุเราไม่ได้อำนวยให้ถึงขนาดนั้น กว่าจะเรียนจบก็เข้าโลงพอดี ฮ่าๆ
"รู้สึกเสียดายงานในฝันเหมือนกัน เสียดายที่โอกาสมาถึงแล้ว แต่ไม่มีปัญญาคว้า นี่แหละหนาชีวิต บางทีเราก็ต้องเลือกทำในสิ่งที่ไม่รักเพื่อความอยู่รอดเน๊าะ..."
ก็คิดในแง่ดีว่า ดีเหมือนกัน จะได้พักสมองหลังจากเคร่งเครียดกับภาษามาสองปี เรียนจบโอกาสได้งานทำก็มาก เพราะคนกินข้าวทุกวัน ร้านอาหารก็เปิดมากมาย คงมีสักมุมเล็กๆ ในครัวที่ไหนสักแห่งให้เราแทรกตัวเข้าไปได้บ้างล่ะน่า หรือจับพลัดจับผลูต้องย้ายกลับบ้านนอก หรือไปที่อื่นๆ ก็ยังมีวิชาติดตัว การทำอาหารนี่มันเป็นสากล ใช้งานได้ทั่วโลก ไม่ว่าที่ไหนๆ คนก็กิน คิดบวกๆ
ตอนที่ไปยื่นไปสมัครที่ Infoteket เจ้าหน้าที่จะอธิบายเรื่องหลักสูตรให้ฟัง และช่วยตรวจสอบเอกสาร แถมยังช่วยกรอกแบบฟอร์มซีเอสเอ็นด้วย
Lernia Utbildning AB
Restaurang och Storkök แบ่งการเรียนการสอนออกเป็นสองหลักสูตร อันแรกก็จะเป็นหลักสูตรสำหรับชาวต่างชาติที่เรียนจบเอสเอฟอีแล้ว ซึ่งเท่าที่สังเกตห้องข้างๆ ที่เพิ่งเข้าเรียนเมื่อสองสามเดือนก่อน เวลาเรียนครูจะช่วยอธิบายคำศัพท์ต่างๆ อย่างละเอียด เป็นการเรียนภาษาไปด้วย เรียนทำอาหารไปด้วย
อันที่ผู้เขียนเรียนเป็นหลักสูตรสำหรับคนที่มีความรู้ภาษาสวีเดนในระดับสูงกว่าเอสเอฟอี เรียนร่วมกับเจ้าของภาษา เวลาเรียนไม่เน้นไวยากรณ์ แต่เน้นความเข้าใจในเนื้อหาเป็นหลัก ไม่เข้าใจศัพท์คำไหนถามได้ แต่ไม่มีการเขียนให้ดูบนกระดานถ้านักเรียนไม่ร้องขอ
การเรียนแบ่งออกเป็น 2 เทอม
เทอมแรก
|
Orientering
Varmkök
Livsmedels Hygien Livsmedelskunskap
Datakunskap
Drycker
Servering A
Näringslära
Arbetsmiljö & Säkerhet
ฝึกงาน 9 อาทิตย์ |
100 poäng
100 poäng
50 poäng
50 poäng
50 poäng
50 poäng
50 poäng
50 poäng
50 poäng
|
เทอมสอง
|
Kallkök
Restaurang och Storkök A
Restaurang och Storkök B
ฝึกงาน 6 อาทิตย์ |
100 poäng
200 poäng
100 poäng |
คะแนนรวม 950 (เยอะมากๆ)
(โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ...)
พี่พิณ
เขียนเล่าเรื่องไว้เมื่อ ตุลาคม 2553
|