Study in Sweden - ชีวิตการเรียนในสวีเดน

เรื่องเล่าประสบการณ์เรียนภาษา, กับโครงการต่าง ๆ, มหาวิทยาลัย, เทียบวุฒิในสาขาวิชาชีพต่าง ๆ และนานาสาระที่เกี่ยวข้อง

เรื่องเล่าจากนุ่น ตอนที่ 1 - ชีวิตนักเรียน(โข่ง)ในสวีเดน

แนะนำตัวก่อน ชื่อเล่นชื่อ "นุ่น" อาศัยอยู่ที่ Malmö มาอยู่สวีเดน ณ ตอนที่เขียนนี้ (เดือน ม.ค. ปี 2011) ก็นับได้สามปีกับห้าเดือน ขอออกตัวก่อนว่าจะเขียนเล่าแบบแบ่งออกเป็นสองตอน คือ ตอนที่กลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้ง กับ ตอนที่ฝึกงานจนได้ทำงาน นะคะ

เราย้ายมาอยู่สวีเดนเมื่อปลายสิงหาคม ปี 2007 ก็มีเรื่องให้ทำโน่นทำนี่เยอะ เช่น ย้ายบ้าน, ไปเที่ยว (อันนี้สำคัญ ฮ่าๆ) ก็เลยยังไม่รีบไปสมัครเรียนแบบคนอื่นๆ เค้า กว่าจะไปสมัครเรียน sfi ก็เดือนมกราคมปีถัดไป แล้วก็ได้จดหมายให้เราไปเรียนตอนปลายเดือนกุมภาพันธ์

พอไปวันแรกก็เข้าปฐมนิเทศน์ แล้วเค้าบอกว่า ใครที่คิดว่าตัวเองอ่านออกเขียนได้บ้าง ให้อยู่ต่อทำแบบทำสอบ แฟนเราก็บอกให้เราลองทำดู เออ ทำก็ทำ ก็เขียนไปเท่าที่เราจะทำได้ ... พอไปเรียนวันแรก เค้าก็จับเราไปเรียนกับห้องที่เรียน kurs C2 ก็มึนเลย ก็ยังพูดไม่ได้นิ แต่อ่านได้เขียนได้นิดหน่อย (เพราะตอนอยู่บ้านชอบอ่านหนังสือพิมพ์ อ่านไปเดาไป ก็พอรู้เรื่อง) แต่ยังฟังไม่เก่ง แล้วคนอื่นในห้องเค้าเรียนกันมา 5-6 เดือนแล้ว (ไปถามเค้าทีหลังตอนพูดได้แล้ว)

วันแรกหลังจากไปเรียน กลับบ้านไปร้องไห้เลย เพราะไม่ค่อยรู้เรื่อง ตอนนั้นเลยบอกตัวเองว่า เราต้องตั้งใจมากกว่าคนอื่นในห้อง เพราะเราใหม่สุด ถ้าอยากเรียนทันเค้าก็ต้องพยายาม ก็เลยฮึดเพราะอยากพูดได้เขียนได้แบบคนอื่นเค้า สองสามอาทิตย์ผ่านไป เริ่มรู้สึกว่าทันคนอื่นละ เริ่มสนุก หายืมหนังสือจากห้องสมุดมาอ่าน (ตอนเรียนอยู่เมืองไทยไม่ขยันเท่านี้นะ ฮ่าๆ) ผลสอบออกมาได้คะแนนเต็มบ้าง ไม่ก็เกือบเต็มทุกครั้ง ก็ดีใจกลับบ้านไปอวดคนที่บ้านทุกครั้ง ทำให้มีกำลังใจไปเรียนทุกวัน

พอใกล้ๆ กลางเดือนเมษายน มีอาจารย์แนะแนวมาแนะแนวการวางแผนการเรียนว่า เรียนจบ sfi แล้วจะต่ออะไร หรือขั้นตอนเรียนจนจบได้ Svenska B มีกี่ทาง ทั้งทางลัด ทางปกติ เรียนกัน 2-5 ปี ก็ว่ากันไป แล้วเค้าก็ถามว่ามีใครอยากลองสอบเรียน Introduktionsutbildning ที่ Malmö högskola มั่ง เพราะถ้าสอบเข้าที่นั่นได้ ก็ถือว่าจบ sfi อัตโนมัติ แล้วเรียนแค่ปีเดียว (สองเทอม) ก็จบได้ Svenska B เราก็เลยยกมือแล้วขอใบสมัครสอบมา แล้วก็ส่งใบสมัครไปคาบเส้นมาก วันก่อนวันสุดท้ายที่เค้าให้สมัครเลยทีเดียว ตอนรอไปสอบเข้าก็มีสอบขึ้นชั้น kurs D ด้วย ก็สอบเลื่อนชั้นได้ตอนปลายๆ เมษายน ดีใจมาก (เพราะไม่โดนทิ้งให้เหลือชั้นเดิม ฮี่ๆ)

พอเดือนพฤษภาคมก็ไปสอบ ก็ไปสอบ 2 วัน เพราะเค้าแบ่งสอบภาษาสวีดิขกับสอบภาษาอังกฤษคนละวันกัน แล้วพอต้นเดือน มิ.ย.ก็รู้ผลว่าสอบผ่านได้เข้าเรียนที่นั่น ดีใจมากมาย เพราะจบ SFI ในเวลาอันรวดเร็ว นับจากวันที่เริ่มเรียน 25 ก.พ. จนวันที่รู้ผลสอบที่ Malmö högskola ก็สามเดือฆนกว่านิดๆ ภาคภูมิใจในตัวเองมากมาย และดีใจที่ไม่ต้องใช้เวลาเรียนนานหลายปีแบบที่ครูแนะแนวมาเขียนบนกระดานด้วย ... แต่เราก็ยังไปเรียนอยู่นะ ไม่หยุดไปเลย ถึงจะถือว่าเรียนจบ sfi แล้ว ก็ขอไปนั่งเรียนกับเค้าทุกวัน แต่ไม่ต้องสอบแบบคนอื่น

พอเดือนกันยายน ก็ไปเริ่มเรียน Introduktionsutbildning ที่ Malmö högskola ... เรียนแบบเร่งรัดมาก ไปกันเร็วสุดๆ แต่เราก็เรียนทัน เพราะตั้งใจแล้วว่า ต้องเรียนให้จบตามหลักสูตรให้ได้ ก็ต้องทำให้ได้ เพื่อนกับอาจารย์ก็สำคัญ ไปเรียนที่นั่นได้อะไรเยอะกว่าในห้องเรียนเยอะ เพราะในห้องมีบางคนอยู่มาสี่ห้าปีแล้ว บางคนก็อยู่มาไม่นานเหมือนเรา บางคนก็เด็กมาก อายุ 16-18 ก็มี พูดได้กันมากน้อยปะปนกันไป อาจารย์ก็สอนดี ถึงจะไปเร็ว แต่ถ้าเราติดขัดตรงไหน ถามได้ตลอด แล้วอธิบายแจ่มแจ้ง รุ่นที่เราเรียนมีประมาณ 30 คนในห้อง ไม่เยอะไม่น้อย อาจารย์ดูแลได้ทั่งถึงดี

เทอมแรกยังไม่มีอะไรมาก สอบออกมาได้คะแนนดีสมที่ตั้งใจเรียน เทอมสองจะหนัก เพราะมีโปรเจ็คและสัมมนาที่เป็นงานกลุ่ม แถมต้องสอบจบที่ยากกว่าเทอมแรก แต่ผลก็ออกมาดีทุกอย่าง สอบผ่าน แถมโปรเจ็ค, สัมมนา และสอบพูดปากเปล่าก็ได้ VG หมดด้วย ตัวอื่นก็มีได้ VG นะ แต่สามตัวนี้ถือว่าสำคัญสุดสำหรับเรา (* kurs นี้ให้คะแนน U, G และ VG) เดือน มิ.ย. ปี 2009 ก็เรียนจบได้ Svenska B, Engelska A และ Samhällskunskap A (เรามี Samhällskunskap A ตั้งแต่แรกแล้ว ก็ไปเข้าเรียนแต่ไม่ต้องสอบ)

ยังนะ ชีวิตนักเรียนโข่งในสวีเดนของเรายังไม่จบแค่นั้น แต่ขอเก็บชีวิตนักเรียนปีสุดท้าย (ที่ไม่ใช่เรียนภาษาสวีดิข) ไปรวมกับตอนต่อไปด้วยเลยดีกว่า เพราะถือว่าการเรียนคอร์สนั้น เป็นหนทางที่ทำให้เราได้งานที่เราทำอยู่ ณ ตอนนี้ก็ว่าได้

ติดตามอ่านภาคสองแล้วกันนะจ๊ะ (ถ้าอยากอ่านนะ ไม่บังคับ :D)

Noon@Malmö

เขียนเล่าเรื่องไว้เมื่อ มกราคม 2554