กระเตงลูกบินลัดฟ้า สู่แผ่นดินแม่ ตอนจบ
นอนซะนาน เธอก็เริ่มเบื่อ ตื่นมาชวนคนรอบข้างคุย ยิ้มให้คนโน้นคนนี้ ถัดไป 2 แถวมีผู้หญิงฟิลิปปินส์คอยมาหยอกบ้าง เธอก็สนุกได้พักหนึ่ง เล่นของเล่นกัน เปิดหนังสือผ้าเล่น หลังๆ เริ่มเหนื่อย เธอก็มีร้องบ้าง พอถึงเวลานอนคุณเธอก็ไม่ยอมให้เราป้อนนมด้วยท่านั่ง เธออยากให้เราป้อนโดยท่านอน เลยหงุดหงิด
สรุปว่าเราไม่ได้หลับ ตลอด 10 ชั่วโมง ... 1 ชั่วโมงก่อนเครื่องลงจอด เธอก็หลับสนิท พอเครื่องจอดสนิทเราเอาลูกใส่เป้ เธอตื่นมาร้องลั่น ประมาณว่าคนจะนอน
จริงๆ ข้างเราเขาเว้นว่างไว้ให้หนึ่งที่ แต่ก็เอาไว้แค่วางของ เพราะทีวางแขนมันยกขึ้นไปข้างหลังไม่ได้
ถึง ตม. แถวก็ไม่ยาวมาก แต่แถวเราไม่ค่อยขยับเท่าไหร่เลย มีเจ้าหน้าที่มาขอคนข้างหน้าเรา 3 คน ให้เราแซงคิวหน่อยได้เปล่า เพราะเขาเห็นเราอุ้มลูกและแบกของ จริงๆ เราก็รอได้แหละ แต่เมื่อทุกคนก็ให้เราไปก่อน นี้แหละน้ำใจจากคนไทย
ตอนเอากระเป๋า ดีหน่อยที่มีคนช่วย คือพนักงานของสนามบินนั่นแหละ ตอนท้องเราก็ให้เขาช่วยแบบนี้ เขาช่วยเข็นจนไปถึงจุดนัดพบเลย ก็ให้ค่าขนมเขาบ้างเนอะ
สรุปว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น ถามว่าเข็ดไหม ขอบอกว่า "ไม่เข็ด"
เอาสาระมากฝากกันอีกนิด เกี่ยวกับพาลูกบิน
สิ่งที่ต้องเตรียม คือ
- ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เอาไปหลายผื่นหน่อย เหลือดีกว่าขาด
- ชุดของลูก สัก 2 ชุด หรือมากกว่า เผื่อว่าเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิด เช่น อาเจียนใส่
- เสื้อกันหนาว หรือผ้าห่มของลูก แต่จริงก็ขอผ้าห่มได้จากพนักงาน
แต่จะเอาติดตัวไปเองก็ได้จ๊ะ
- เสื้อของเรา สัก 1 ตัว
- นม กรณีที่ให้นมกับขวด
- ของเล่นชิ้นโปรด และของเล่นชิ้นใหม่ที่ลูกไม่เคยเห็น เอาไว้ดึงความสนใจ เตรียมไป สัก 2-3 ชิ้น
- จุกหลอก ถ้าลูกใช้
- ยาแก้ไข้ หรือยาที่จำเป็น สำหรับลูก
สำหรับคนที่จะเดินทางและใช้เวลาอยู่บนเครื่องนาน ถ้าเป็นไปได้เลือกบินตรงก็จะสะดวก สบายกว่ากันเยอะเลยค่ะ |
*** เดินทางโดยเครื่องบินกับลูกเล็กๆ ไม่ได้ยากอย่างที่คิดจ๊ะ***
Kate
http://kate-kate.bloggang.com
เมษายน 2554
|