บ้าพลัง...ขอเรียนภาษาอังกฤษ
จะบอกว่า นอกจากมีเรียน 2 ตัว เอสเอฟอี และ สเว่น ออ (Svenska som andra språk A) แล้วก็ยังบ้าพลังไปขอเรียนภาษาอังกฤษอีก สองตัวแรกนั้นหนักไม่สะใจหรือไงก็ไม่รู้ … อะไรไปดลใจก็ไม่รู้ล่ะ... ก็ได้ไปปรึกษาหลายๆ คนก่อนลงเรียนไม่มีใครไม่แนะนำให้เรียน กลัวสองภาษาจะตีกัน แต่ว่าเราอยากพัฒนาภาษาอังกฤษตัวเอง เรียนเองก็ไม่สำเร็จอย่างสูงสุดแบบที่หมายไว้สักที เห็นที่คอมวุกซ์เปิดสอน และฟรีด้วยนิ อิอิ
ก็เลยไปบอกครูเอสเอฟอีก่อน ครูบอกให้ไปปรึกษาครูแนะแนว ครูแนะแนวบอกว่าไม่ได้ เพราะว่ายังไม่จบเอสเอฟอีเลย ต้องรอก่อน … ก็บอกครูแนะแนวว่า ไม่จบเอสเอฟอี แต่เรียน Svenska som andra språk A อยู่นะนี่ ... พอครูแนะแนวเชคประวัติแล้วก็ อืม งั้นก็ ได้ๆ …
ครูแนะแนวก็นัดวันไปทำแบบทดสอบดูว่าจะได้เรียนในระดับไหน ไปกับเพื่อนอีก 2 คน ก็ได้เริ่มที่ Engelska A ก็เลยรวมตัวกันไปเรียนด้วยกันหมดเลย … ก็แบบว่า ปรับตัวได้แล้ว ส่วนเอสเอฟอีก็เรียนกันเรื่อยๆ แค่รอสอบจบ ไม่ได้ซีเรียสอะไร มีเรียนจริงๆ จังๆ ก็สเว่น ออ ตัวเดียว เรียนสัปดาห์ละ 2 วันเอง ว่างมากๆ กลัวว่างจัดเลยอยากหาไรทำมั้ง เหอๆ อยู่ดีๆ ไม่ว่าดี ฮ่าๆ ๆ
ก็พอดีว่าเวลาเรียนภาษาสวีเดนกับอังกฤษชนกัน เลยลงเรียนแบบ flexibel … ก็ไม่ต้องเข้าเรียนตามปกติ เรียนด้วยตัวเองตามหนังสือเรียนที่เค้ากำหนดมาให้ (Progress Gold A) ไปพบครูอาทิตย์ละครั้ง ส่งงาน และก็รับงาน แล้วก็มีพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหาต่างๆ ในหนังสือ
พอลงทะเบียนไปได้ไม่นานก็มีเอกสารจากซีเอสเอ็น เป็นแบบฟอร์มเพื่อขอเงินสนับสนุนระหว่างเรียน แต่เค้าระบุว่าต้องมี PUT ถึงจะสมัครได้ เราไม่มีนิ แต่ทำไมเค้าส่งเอกสารมาแล้วล่ะ พอดีเพื่อนที่มาอยู่ก่อนก็เคยเจอกรณีเดียวกัน เค้าบอกว่า เพราะเราลงเรียนวิชาในระดับที่สามารถขอเงินช่วยเหลือได้ และตอนลงทะเบียนเรียนเราระบุว่าจะขอเงินอันนี้ เค้าก็เลยส่งเอกสารมาให้ เพื่อนเคยกรอกส่งไป แต่ว่าไม่มี PUT ทางซีเอสเอ็นเค้าก็เลยตอบปฏิเสธกลับมา … สรุปว่า เราก็เลยไม่ส่งมั่ง
เจอครูสอนภาษาอังกฤษครั้งแรกก็รับแผนการเรียนว่าเราต้องทำอะไรยังไงบ้าง ต้องส่งอะไรตอนไหน สอบอะไรเมื่อไหร่ ครั้งต่อๆ ไปที่เจอครูก็เล่าให้ครูฟังว่าเราทำอะไรไปบ้าง ส่งงาน และก็สนทนาพูดคุยกันเกี่ยวกับเนื้อหาที่ครูให้ไปอ่านมา เนื้อหาในหนังสือเรียน มีอะไรสงสัยก็ถาม เจอกันครั้งละราวๆ 2 ชั่วโมง ห้องเล็กๆ ไม่ถึง 10 คน … ครูที่สอนก็ใจดี เป็นกันเอง มีไรบอกปรึกษาได้ โชคดีที่ได้เจอครูน่ารักค่ะ
เรียนจบทุกๆ 3 บทก็สอบข้อเขียน ก็ยากดี … มีสอบเติมคำในช่องว่าง ท้ายข้อจะมีวงเล็บใบ้เป็นภาษาสวีเดนไว้ให้ ส่วนนี้ก่อนสอบก็ท่องกันเป็นนกแก้วนกขุนทอง ก็ดีค่ะ ได้ศัพท์สวีดิชเพิ่มไปในตัวด้วย และก็มีสอบไวยากรณ์ การใช้สำนวนต่าง ๆ และอื่นๆ ตามที่ได้เรียนกันไปในแต่ละบทด้วย สอบอ่านจับใจความ อ่านแล้วตอบคำถาม และตบท้ายด้วยเติมคำในช่องว่างในเนื้อเรื่องยาวๆ ส่วนนี้ยากสุดๆ อ่ะ
นอกจากนี้ก็มีให้อ่านนิยายภาษาอังกฤษ 2 เรื่องแล้วก็เขียนสรุปว่าเรื่องราวเป็นยังไง ชอบหรือไม่ชอบยังไง ดีหรือไม่ดียังไง แสดงความคิดเห็นไป และวันที่ไปส่งงานก็ต้องเล่าให้ครูกับเพื่อนๆ ฟังด้วย ปกติยุ้ยไม่ชอบอ่านนิยายไม่ว่าภาษาไหนๆ ก็เลยไม่รู้จะอ่านอะไร ก็ไปบอกครูว่า หาให้หน่อย เอาแบบที่เธอคิดว่าเหมาะกับชั้นน่ะ ฮ่าๆ ๆ... ครูก็เลือกมาให้ สนุกดี ติดซีรีส์นั้นไปเลย ฮ่าๆ ๆ
เรียนจบแล้วก็มีสอบ nationellt prov ของภาษาอังกฤษ ครูก็เอาตัวอย่างข้อสอบเก่ามาให้ลองทำชิมลางก่อน... ยากม๊ากมากอ่ะ ยิ่งเรื่องฟังนี่ยิ่งไปกันใหญ่ พูดไวมากๆ เสียงจอแจจ๊อกแจ๊กเพราะว่าเป็นบทสัมภาษณ์ตามสถานที่ต่างๆ ฟังแล้วก็ให้เขียนตอบเอง แง่มๆ
มีสอบเขียนเรียงความด้วย ต้องเขียนยาวๆ … ไม่รู้หัวข้อเรื่องล่วงหน้า สดๆ กันตรงนั้นเลย ต้องเค้นออกมาให้ได้ ยุ้ยเลือกเขียนในหัวข้อใกล้ตัวและมีประสบการณ์ตรงค่ะ... ผลสอบออกมาเป็นที่น่าพอใจ ผ่านไปได้ด้วยดี ดีใจค่ะ
ยุ้ย
มีนาคม 2554
|