ติเพื่อก่อ อย่าท้อซะก่อนนะ (ถ้าอยากเก่งสวีดิช)
สมัยเรียน สวีดิชแรกๆ ยุ้ยน่ะไม่มีใครแก้ไขเรื่องสำเนียง เสียงเมโลดี้ ให้เล้ยยย พูดผิดๆ ถูกๆ มั่วๆ ไปจนต้องรวมกลุ่มไปบอกครูว่า ช่วยแก้ให้หน่อยเหอะ ไม่งั้นก็คิดว่าพูดถูกแล้ว ก็พูดอยู่นั่นแหละ
ถ้าเธอแก้ให้ชั้น ชั้นก็จะไม่พูดผิดซ้ำๆ อีกเป็นอันขาด ใครจะกล้าล่ะ อายนะน่ะ ครูก็แก้ให้ ในกรณีที่แบบรับมิได้ อะไรประมาณนั้น บางทีก็ไม่แก้ตรงๆ รวมที่ผิดๆ เพี้ยนๆ มาเขียนอธิบายบนกระดานเลย แล้วเราก็ได้เรียนรู้ร่วมกัน
แล้วครูส่งยุ้ยไปหา Logoped ช่วยสอนเทคนิคการออกเสียงให้ ไปเรียนแป๊บเดียว เพราะเบื่อ 555+ เรียนเร่งๆ รีบๆ คนเยอะ นั่งฟังเองหน้าคอมฯ ....
ก็เลยกลับมาบ้านบอกแฟนว่า "นี่เธอๆ ช่วยพูดสวีดิชกะชั้นหน่อยนะ แล้วถ้าชั้นพูดผิดก็ตบจูบๆ เลยนะ ช่วยแก้ให้หน่อยนะ"
แรกๆ ก็ใช้ความอดทนสูงทั้งคู่ แก้กันแทบทุกคำ ทุกประโยค เพราะว่าตาซานต้าจะให้ได้เพอเฟคอย่างใจ แต่เราทำไม่ได้นิ ลิ้นมันไม่ได้ เฆี่ยนตีกันทุกวัน (เว่อร์ไปนิด) เน้นการออกเสียง ตัว R และ L เสียงลงท้ายคะ เช่น s t d และอื่นๆ เสียงตัว Sj เสียงสระทั้งหลายอีก โอย อีกมามายสาธยายไม่ถ้วน
ก็ เกือบล่มแล้ว เพราะยุ้ยท้อจนเกือบถอย กดดันนิดๆ แต่ก็ทนเพราะเป็นคนอยากทำแบบนี้เอง เพื่อนที่โรงเรียนบอกว่า สู้ต่อไปในเมื่อเธอมีโอกาสได้ฝึกที่บ้านแล้ว หาที่ไหนไม่ได้แล้วนะ อยู่โรงเรียนก็ไปนั่งฟังครู พูดไม่ได้มากมาย สู้ๆ ...
ไม่นานนักคนแก้ก็เซ็ง มีแววเกือบหมดความอดทน แล้วก็ว่า "เราหันไปพูดอังกฤษกันตามเดิมได้ป่าวจ๊ะ?"
ยุ้ยก็... ไม่ได้ๆ .... เพราะรู้ว่า ภาษาสำคัญกับอนาคตหน้าที่การงาน ทำวันนี้ให้ดีที่สุดวันหน้าคงสบาย ตามที่เจ้ยเคยเป่าหูไว้ ต้องอดทนกันต่อไป ต้องทำกันต่อไป ถึงแม้ว่าจะฟังไม่รู้เรื่องบ้าง ออกเสียงผิดเพี้ยนบ้าง พูดไม่รู้เรื่องบ้าง บลาๆ ๆ ...
ก็บอกกะตาซานต้าว่า นี่ถ้าชั้นพูดได้ไม่ดีก็เป็นความผิดเธอแหละ เพราะว่า เธอก็คือครูอีกคนหนึ่งของชั้นนะ ระวังจะอายเค้านะ ว่าไม่สั่งสอนเมีย แต่ถ้ามีคนชมชั้นว่าพูดดี ชั้นก็จะบอกทุกๆ คนว่า เพราะเธอนะทำให้ชั้นได้ดีแบบนี้น่ะ ... แบบว่า ตอนโน้นหาเ่ล่ห์เหลี่ยมหลอกตาซานต้าสุดๆ จุ๊ๆ อย่าไปบอกแกนะ
จนถึงทุกวันนี้จะ 2 ปีและพี่น้องทั้งหลาย ก็ยังมีการแก้ไขกันอย่างต่อเนื่อง เพราะได้หน้าลืมหลัง ไม่ได้พูดนานก็ลืมเลือน อีกทั้งมีอะไรใหม่ๆ ที่เราหยิบจับมาพูดเพิ่มเติมตามพัฒนาการ
เด๋วนี้ตาซานต้ามีแซว เหน็บ หยอกให้จำ ให้เคืองด้วย เทคนิคตาซานต้าเริ่มแพรวพราวในเรื่องนี้ไปซะแล้ว
เพื่อนยุ้ย อีกหลายคน ที่เค้าไม่ได้มีแฟนเป็นคนสวีเดน หรือ ไม่ได้พบปะสังสรรค์ มีเพื่อนเป็นคนสวีเดนเลย เค้าก็อิจฉาเรานะ ที่เราได้มีครูฝึกด้วยที่บ้าน ส่วนคนที่มีแฟนเป็นคนสวีเดนหลายคน อยากฝึกที่บ้าน แต่แฟนก็ไม่ เพราะว่า ไม่สามารถผ่านช่วงกดดันแรกๆ กันไปได้ บางทีแค่วันแรกก็ไม่มีวันที่สองแล้ว หรือได้หลายวันแล้วก็ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่งที่หยุดไปก่อนดื้อๆ เลยน่ะ หันไปพูดภาษาที่คุ้นเคยกันตามเดิม ...
ก็ได้ ยินแบบนี้แล้ว ถึงแม้เราจะเรียนรู้ได้ช้ากว่าเค้า แต่เราได้เปรียบตรงที่มีครูส่วนตัวที่บ้าน หาได้ที่ไหนที่มีคนมาช่วยฝึกเรื่องการพูด การพังให้เรา อย่างี้ จริงป๊ะ? ... พอเราพูดได้ถูก ก็เขียนอย่างที่เราเคยพูดนั่นล่ะ ส่วนเรื่องการสะกดคำ ก็ต้องจำเอาเอง... ก็นะสู้ต่อไป
ก็อยากให้ เอาเทคนิคนี้ไปใช้ดูค่ะ คนสวีเดนส่วนใหญ่ใจดี ถ้าเราบอกเค้า เค้าก็จะช่วยอยู่แล้ว ไปพูดๆ กับญาติๆ แฟนก็ได้ บอกว่าเราอยากพูดเป็น แค่นั้นล่ะรับรองว่าเค้าจะช่วยเราแน่ เรามีความตั้งใจ และขอกันขนาดนี้แล้วนิ ใครจะไม่อยากส่งเสริม
แต่ก็ ติดอยู่ที่ว่า คนรุ่นๆ หรือหนุ่มๆ สาวๆ เนี่ย ความอดทนค่อนข้างน้อย เค้าอาจจะหยุดช่วยเราได้ในเร็ววัน เห็นตัวอย่างมาจากเพื่อนๆ แล้วหลายคน แต่ที่ยุ้ยเห็นหนุ่มใหญ่ เช่น ตาซานต้าเนี่ย ผ่านโลกมามาก ความอดทนสูง ... นี่ขนาดสูงแล้วยังเกือบหลุดนิ
ยากอยู่ เพราะอยู่สื่อสารกันอย่างเมามันส์ด้วยภาษาอังกฤษ แล้วต้องมาอ้อๆ แอ้ๆ อีกคนต้องมาฟังเสียงอ้อๆ แอ้ๆ แสลงหู สื่อสารไม่ได้ดั่งใจมันก็นะ...
ไงก็ ... ในเมื่อมีโอกาสอยู่ในมือแล้วก็ลองพูดสวีดิชที่บ้านกันดูนะคะ ... ได้ ไม่ได้ไง ก็ว่ากันอีกที
ถ้าหมด หนทางแล้วก็หันไปฟังเทป หรือ ฟังซีดีประกอบหนังสือ แล้วก็ดูตามอ่านตามไป เช่น หนังสือที่ได้มาจากโรงเรียน หรือไปขอยืมที่ห้องสมุดโรงเรียน หรือเล่มนี้
หรือไม่ก็หาฟังบนอินเตอร์เนต ไปหาดูลิ้งค์ได้ที่ Links for learning Swedish หรือจะไปฟังข่าวประกอบบทความข่าวได้ที่
www.8sidor.se คลิกไปที่ Lyssna ที่อยู่เมนูด้านขวาบนๆ นั่น แล้วจาำกนั้นจะมีแถบเมนูที่ด้านบนสุดของเวบแสดงขึ้นมา ก็ึคลิก Läs text แล้วก็จะมีเสียงอ่านข่าวให้เราฟัง แต่ต้องบอกก่อนว่า เสียงมันจะไม่ใสนิ้งหรอกนะ ลองดูๆ
สู้ๆ แอนด์ โชคดีๆ ค่ะ ... :D
|