Hot info

In Sweden / จากประสบการณ์
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สัมภาษณ์ PUT (Permanent Uppehållstillstånd)

วันนี้ไปสัมภาษณ์ PUT มาแล้วค่ะ ออกจากบ้านไปแต่เช้าที่สุดที่ทำได้กันแหละค่ะ จากลุนด์ก็นั่ง รถเมล์สีเหลือง สาย 130

ก็ไปขึ้นรถเมล์ที่ถนน Bangatan ป้ายรถเมล์อยู่ข้างๆ กับ Sparbanken และตรงข้ามกับ GH Data ในเมืองลุนด์น่ะค่ะ

นั่งรถเมล์ไปลงที่ป้าย Malmö Värnhem แล้วก็เดินไปย้อนจากตรงที่รถจอดไปตามถนนเส้นนั้นไปเรื่อยๆ

(รูปซ้ายมือ- ป้ายรถเมล์ที่ Värnhem รูปขวามือ-ยุ้ยเดินย้อนจากป้ายรถเมล์เลียบถนนเส้นนี้ไปทางด้านหลังของตึก สูงๆ นั่นไปเรื่อยๆ)

พอเจอแยกถนนที่ชื่อว่า Östra Farmvägen ก็เลี้ยวขวาตรงเข้าไปเลยค่ะ เดินไปเรื่อยจะเห็น Willys อยู่ทางซ้ายมือ

เดินไปอีกนิด ก็เจอตึกอิมมิเกรชั่นซึ่งอยู่ทางด้านขวามือค่ะ ยุ้ยไปสัมภาษณ์วีซ่า PUT ก็มุ่งไปส่วนสำนักงานตรง Celsiusgatan 35

พอไปถึงก็เกือบเที่ยงแล้น เปิดประตูเข้าไปโอ้แม่เจ้า คนเพียบแทบไม่มีทีนั่ง กดบัตรคิว Uppehållstillstånd ได้คนที่ 164 โน่น

ดูที่กระดานเค้าเรียกอยู่ที่คิว 130 เฮ้อ ต้องรอคอยกันอีกนานเลยเนี่ย เหอๆ แต่ก็พกหนังสือ และ อาหารน้ำท่ากันไปพร้อมสุดๆ ค่ะ

นั่งไปนั่งมาก็นึกสงสัยว่าต้องทำอะไรป่าว เพราะเห็นคนไปมุงกันที่เค้าเตอร์ Information เลยทำตัวอินเทรนด์ไปมุงกะเค้ามั่ง

เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ต้องทำอะไรนั่งรอคิวอย่างเดียว แล้วเธอก็ให้บัตรคิวที่คนอื่นทิ้งไว้ให้ยุ้ยมา

คิว 159 อืม เลขสวย ได้ไวกว่าเดิม 555+ ชอบเลยเรา

ระหว่างนั่งรอก็มองสังเกตุไปทั่ว คนมากหน้าหลายตาเต็มไปด้วยคู่ชาวต่างชาติ หาคู่ชายสวีเดนกับหญิงต่างชาติได้น้อยนัก ที่เห็นๆ มี 4 คู่เองอ่ะ

คนเยอะมากทั้งเด็กและผู้ใหญ่ วิ่งเข้าวิ่งออกกันไปขาดสาย ... พนักงานคงทำงานกันเหนื่อยน่าดูล่ะ

อ่ะ นั่นก็เป็นบรรยากาศที่เล่าสู่กันฟังค่ะ

มาถึงตอนสัมภาษณ์เลยละกันนะ ห้องสัมภาษณ์ก็เป็นห้องใหญ่ๆ เป็นเค้าเตอร์ที่มีที่คั่นกำบังยื่นออกมา มีอยู่ 2 แถว

แต่ละคู่ก็นั่งสัมภาษณ์อยู่ในแต่ละล๊อค มีอยู่ 7 ล๊อคได้มั้ง ได้ยินเสียงพูดคุยกันชัดเจนค่อดๆ แล้วอีกมุมนึงเป็นมุมโซฟานั่งรอ

เข้าไปเค้าก็ขอเอกสารตามที่บอกมากับจดหมายเรียก แล้วก็ขอบัตรประชาชนตาซานต้า แล้วก็ถามว่า

- ยังแต่งงานกันอยู่ใช่ป่าว?

- ยังอยู่ด้วยกันมั๊ย?

- แล้วจะอยู่ด้วยกันต่อไปใช่หรือไม่?

ก็ตอบๆ ใช่้ๆ แล้วก็แอบขำๆ กัน ตาซานต้าก็แซวๆ ไปว่า นี่ถ้าตอบว่า ไม่ เนี่ยจะเป็นไง เค้าก็บอกว่า อันนี้ก็ต้องพิจารณากันหนักหน่วงเลยล่ะ

แล้วเค้าก็ลีลา หาเอกสาร อธิบายโน่นนี่ไปเรื่อย แล้วก็บอกว่า อ่ะ เด๋วขอสัมภาษณ์ฝ่ายหญิงก่อนนะ ฝ่ายชายก็ไปนั่งรอตรงโซฟาไกลๆ โน่นก่อน

คนสัมภาษณ์ยุ้ยเค้านิ่งมากๆ ท่าทางเป็นทางการ ทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอน มองด้วยสายตาเยือกเย็น สังเกตไรนักหนาก็ไม่รู้

อีชั้นก็เขิลอ่ะดิ ขี้อายอยู่ด้วย ตอบไปม้วนไป เอ้อออ ก็จ้องกันซะขนาดนั้น แล้วเค้าก็ถามว่า

- ชีวิตแต่งงานเป็นไงบ้าง? เป็นไปด้วยดีมั๊ย?

- พวกเธออยู่ด้วยกันที่ไหนหรอ?

- ตอนนี้ตัวเธอเองกำลังทำอะไร?

- แล้วแฟนเธอทำอะไรอยู่ตอนนี้?

- เคยไปอยู่เมืองไทยด้วยกันบ้างหรือเปล่า? ตั้งแต่มากลับไปเมืองไทยด้วยกันมาบ้างมั๊ย?

- แล้วพวกเธอวางแผนการว่าจะทำอะไรต่อไปในอนาคตล่ะ?

- อยากจะพูดไรเพิ่มเติมป่าว?

แล้วเค้าก็เรียกตาซานต้าไปถามคำถามเดียวกัน ตาซานต้าตอบเสียงดังเราฟังได้ชัดทีเดียว มีไปแซวๆ เค้าอีก จริงๆ เลยแกเนี่ย 555+

เสร็จแล้วเค้าก็เรียกยุ้ยกลับมาแล้วก็บอกว่า วีซ่ายังไม่ได้วันนี้นะ เพราะว่า วีซ่าของเธอยังไม่ครบ 2 ปีเต็มๆ (ขาดอีก 10 วัน)

ทางเราก็พิจารณา และเชคกับทางฝ่ายตำรวจก่อนว่า ฝ่ายหญิงไม่เคยทำความผิดอะไร แล้วไงก็รอรับจดหมายอีกทีล่ะกันนะ

แล้วเค้าก็ปริ้นท์เอกสารที่เค้าสัมภาษณ์เราแล้วเค้าเขียนบันทึกไว้ ออกมาให้เราอ่านกัน แล้วก็ให้เซ็นต์รับรองเอกสารด้วยกันทั้ง 2 คนเลย

แล้วก็บายๆ กลับบ้านกัน เท่านั้นล่ะ รอฟังผลกันอีกที

ถ้าหลังวีซ่าหมดอายุไปแล้ว ถ้าเรายังไม่ได้ เค้าก็บอกว่า ก็อยู่รอไป ห้ามออกนอกประเทศ เพราะว่าวีซ่าเราหมดอายุ ก็เท่ากับเราไม่มีวีซ่า

เอาล่ะค่ะ แล้วได้เรื่องยังไงจะแวะมาเล่าต่ออีกทีนะคะ... รอติดตามตอนต่อไปเด้อค่าาา

มีนาคม 2552

หลังจากนั้นสองสัปดาห์เกือบสามสัปดาห์เห็นจะได้ .... ก็ได้รับเอกสารจากอิมมิเกรชั่นให้ไปปั๊มวีซ่า PUT ก็นำพาสปอร์ต และเอกสารเรียกตัวที่ได้จากอิมมิเกรชั่นไปด้วย ก็ไปที่เดิมที่ไปสัมภาษณ์ เลือกไปวันศุกร์เพราะเค้าแนะนำมาว่า คนไม่เยอะ แต่ว่าเค้าเปิดแค่ช่วงเช้า ถ้าไปวันอื่นก็ต้องไปพจญภัยรอคิวยาวปนกับคนที่ไปสัมภาษณ์ด้วย

พอไปถึงก็ไปบอกพนักงานที่นั่งอยู่ด้านนอกว่า จะมาปั๊ม PUT เค้าก็บอกให้ไปกดบัตรคิว แล้วก็นั่งรอพักนึง คนไม่เยอะอย่างที่เค้าว่าจริงๆ ด้วย พอถึงคิวก็เดินเข้าไปในส่วนที่เค้าให้บริการ ยื่นเอกสารและพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่เค้าไป เจ้าหน้าที่บอกว่าให้ยืนมองกล้องจะถ่ายรูป ก็ปล่อยให้เค้าถ่ายไป จะทำไรก็ทำไป วันนั้นเหนื่อยมากมาย ตื่นไปแต่เช้าด้วย ก็เค้าบอกว่า ไปเช้าๆ คนจะไม่เยอะก็เชื่อล่ะ หอบหิ้วสังขารอันอิดโรยไป ... รอสักพักเจ้าหน้าที่เดินกลับมา ยื่นพาสปอร์ตที่ติด PUT ให้แล้ว เหวอเลยครับพี่น้อง เพราะว่าหน้าอันอิดโรยไปอยู่ในสติ๊กเกอร์ PUTนั่น ฮ่วย ไปอย่างโทรม ไม่ได้สืบเสาะว่าเค้าจะถ่ายรูปลง PUT ด้วย 555+ แล้วเจ้าหน้าที่คงมือใหม่ ติดสติ๊กเกอร์วีซ่าให้มาซะยับยู่เลย เปิดดูวีซ่าอันนี้ทีไร แล้วเง้ออ หลอน เอิ๊กๆ

ขั้นตอนต่อไปก็คงเป็นเรื่องของการขอ การขอสัญชาติสวีเดน / พาสปอร์ตของสวีเดนเนี่ยแหละ แล้วไงจะแวะมาแบ่งปันแล้วกันนะคะ