: Diary :
+ 2012 + 2555 +
เรื่องเล่าระหว่างหางานทำ / 8 มิถุนายน 2555
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. นี่ก็เพิ่งเขียนรายงานชิ้นสุดท้ายส่งไปค่ะ โล่งและ หมดกันซะที เหลือแต่รอผลคะแนน ถ้าผ่านหมด ก็เป็นอันว่าเรียนจบค่ะ
ระหว่างนี้ก็ขอพักบ้าง เที่ยวบ้าง(ไปวัด อิอิ) เคลียร์บ้านช่องให้เรียบร้อย ชื่นชมผักผลไม้ที่ปลูกไว้เองหลังบ้าน ทำไรอร่อยๆ กิน เดินเล่นกับบุญมาบ้าง เยี่ยมเยียนเพื่อนฝูง... อารมณ์ดีๆ ก็หางานสมัครงานเพิ่ม ... งานก็มีมาใหม่เรื่อยๆ ค่ะ มีทั้งที่ส่งตรงมาที่เมล์เราจากเวบที่ไปสมัครไว้ กับที่ต้องเข้าไปหาเอง ไปหาตามบริษัทดังๆ หรือที่เรารู้จักเกี่ยวกับสายงานเรา บางบริษัทเค้าจะมีบอกตำแหน่งงานที่ว่างของบริษัทเค้า ก็สมัครไป ตรงกับตัวเองบ้าง ไม่ตรงแต่อยากทำบ้าง เสี่ยงไปเรื่อย หว่านแห ฮาาา...
เพิ่งจบก็งี้แหละค่ะ เรื่อยๆ เพราะยังเหนื่อยอยู่ อยากพักยกนิดๆ แต่ไม่ขอพักนานล่ะค่ะ หุหุ ...
สมัครงานไปก็มีการพัฒนาซีวี และจดหมายไป เห็นข้อบกพร่องตรงนั้นตรงนี้ เอ... เราน่าจะปรับตรงนั้นตรงนี้ให้ดูน่าสนใจมากขึ้น อีกอย่างได้ทบทวนชีวิตตัวเองมาด้วยว่าเคยเรียนอะไร ยังไง เมื่อไหร่ จำได้แต่ว่าเรียนวิชาไรมา แต่จำไม่ได้ว่าเนื้อหาโดยสรุปเป็นยังไง และเรียนมาเมื่อปีไหน ... เคยลงคอร์สอะไร ที่ไหน ยังไง ก็จำไม่ค่อยได้เท่าไหรนัก ... ขี้ลืมค่ะ อิอิ ... ไปสมัครหลายๆ เวบเค้าก็ถามเหมือนบ้าง แตกต่างไปบ้าง บางทีก็ถามละเอียดมาก เน้นในส่วนที่เค้าสนใจ บางที่ก็ให้กรอกแค่ข้อมูลพื้นๆ ก็ต้องมานั่งทบทวนสรุปสั้นๆ ให้ได้ใจความมากที่สุด เพราะว่าเค้าจำกัดคำที่จะเขียนบรรยายอ่ะ ... เวบไหนที่ให้เขียนเยอะๆ แล้วเรามีเขียนก็นะ แหม่ ต้องสู้กะเค้าได้บ้างแหละน้า เวบไหนให้กรอกแค่พื้นๆ แง่มๆ แล้วเค้าจะรู้จักเราได้ไงว่าเคยทำไรอย่างอื่นมาบ้างอ่ะ
เคยมีซีวีออนไลน์ที่ไหน หรือ Profile online เช่น LinkedIn, Google+ ก็แวะไปอัพเดทให้สวยงาม ปรับปรุงแก้ไขให้ทันสมัยมากที่สุด ... เคยสมัครไว้นานหลายปีแล้ว แต่จดพาสเวิร์ดไว้ เลยไม่ต้องไปเริ่มกรอกให้ แค่อัพเดทเพิ่มเติมโน่นนี่นั่นตามสมควร
งานบางงานเค้าก็ให้ส่งเมล์ไปสมัครโดยตรง เราก็เซฟซีวีและจดหมายเป็น .pdf ส่งไป บางที่ก็ผ่านเวบของบริษัทโดยตรง บางที่ก็ผ่านบริษัทจัดหางานที่เค้าลิงค์กันไว้ ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้เราต้องสมัครโน่น กรอกนี่ใหม่เกือบทุกที ใช้เวลานานมากๆ ๆ ๆ กรอกซ้ำๆ ๆ อยู่นั่นล่ะ เหนื่อยเลยอ่ะ วันๆ นึงเจอแบบนี้สมัครได้ไม่กี่งานก็พักค่ะ เอาแต่พอดี สงสารร่างกายที่ต้องนั่งหน้าคอมฯ นานๆ น่ะค่ะ ... คิดอีกทางนึงก็ดี จะได้จำประวัติตัวเองได้แม่นๆ ว่าปีไหนไปทำไรมา จำได้แต่ว่าทำไรมาบ้าง แต่จำปีไม่ค่อยได้น่ะ คนสวีเดนเวลาเค้าคุยกัน เค้าจะชอบบอกว่า ปีนั้นปีนี้ทำอันนั้นอันนี้ เราก็ต้องเตรียมไว้ เค้าจะถามไม่ถามก็อีกเรื่อง... สมัครงานของบางที่ก็ดีหน่อยแค่โหลดซีวีกับจดหมายที่เรามีแล้วและก็คลิกส่ง จบ ชอบแบบนี้ ง่าย สะดวกดี ... แต่ยังไม่เคยเจองานไหนที่ต้องปริ้นท์ออกมา แล้วจ่าหน้าซองติดสแตมป์เดินไปหย่อนจดหมายที่ตู้ไปรษณีย์เหมือนสมัยยังสาวนะคะ สมัครผ่านทางอินเตอร์เนตหมดแล้วสมัยนี้ ก็ดีค่ะ ประหยัดค่าใช้จ่ายและกระดาษแอนด์หมีกพิมพ์ ฮาาา... ส่วนตัวนี่คิดว่า การสมัครงานนี่ถือเป็นงานเต็มเวลาได้เลยนะคะ ...
แรกๆ ก็เขียนในจดหมายแนะนำตัวหรือที่เค้าเรียกว่าจดหมายปะหน้าอะไรนั่นซะหวือหวา เปลี่ยนคำโน้มน้าวใจที่ว่าทำไมเราถึงสมัครงานนี้เรื่อยๆ ... หลังๆ บางทีก็ขี้เกียจเลยแอบเขียนจดหมายที่เป็นกลางๆ แก้ไขนิดหน่อยแล้วก็ส่ง หุหุ ก็ตำแหน่งงานก็คล้ายๆ กัน แต่คนละบริษัท ตัวเราเองก็คนๆ เดียวกัน มันจะต่างไรกันนิ... อันนี้ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างค่ะ ฮาาา
ก็ส่งไปหลายสิบงานแล้ว หว่านแหไปเรื่อย ยังไม่ได้ปลาสักตัวอ่ะ... ซานต้าบอกว่า ถ้ายังไม่หมอเขตรับสมัครเค้าก็ยังไม่ทำไรหรอก ... อันไหนที่หมดเขตรับสมัครแล้ว ก็ได้รับจดหมายปฏิเสธราวๆ ว่าเสียใจด้วยนะ ตอนนี้เราได้เลือกคนอื่นเพื่อทำการสัมภาษณ์หรือเข้าสู่กระบวนการต่อไปแล้ว ... หรือเสียใจด้วย เราไม่ได้เลือกคุณ หรือ คุณไม่ได้ไปต่อ ไรทำนองนี้ ... เฉยๆ ค่ะ อ่านๆ แล้วก็ปิด ฮาาา ชิน เพราะก่อนโน้น เคยสมัครงานก็ได้แบบนี้ ... แต่ตอนที่ได้ เมล์ปฏิเสธครั้งแรกก็รู้สึกแป่วๆ นะ แต่มันนานมาแล้ว จำอารมณ์นั้นไม่ได้แล้ว เหอๆ...
ที่เล่าไปก่อนว่า สมัครงานไหน ก็เซฟข้อมูลงานนั้นไว้ดูนี่ พอตำแหน่งไหนได้จดหมายปฏิเสธก็แยกออกไปต่างหาก หรือก็ลบออกไปเลย ... ซานต้าบอกว่า บางตำแหน่งมันจะวนกลับมาอีก เพราะเค้าไม่ได้คนที่เค้าต้องการ ก็ให้เราสมัครไปใหม่ เผื่อได้ อ๊ะ เชื่อพ่อๆ
บางทีว่างจัด คุณสมบัติตรงไม่ตรงก็ส่งไป เสี่ยงเล่น ไม่มีไรจะเสียอยู่แล้ว ฮ่าๆ ๆ ไอ้ที่ไม่ตรงก็เค้าบอกว่าต้องมีประสบการณ์ 3-5 ปีบ้าง เค้าระบุว่าต้องรู้เรื่องนี้ๆ เราไม่ครบตรงเป๊ะบ้าง ขาดไปสัก 3-4 อย่างบ้าง (หลายงานมากที่เค้าระบุรายละเอียดมายาวยืดมากๆ) แหม่ จะสมัครแต่ที่ตรงเป๊ะ ก็นะ เสี่ยงไปก่อน ไงเราก็มีพื้นฐาน เผื่อได้ ฮาาา มองโลกในแง่ดีตลอดเรา ... บางที่เค้ามีสแกนสะกัดดาวรุ่งด้วยคำถามว่า เคยทำงานในเครือของเค้าป่าว? เคยทำอันนี้ที่อื่นมาก่อนมั๊ย? เรียนอันนั้นอันนี้มามั๊ย? อันไหนตอบได้ก็ตอบไป และก็ส่งไป ... อันไหนไม่ได้ก็ไม่ตอบ พอไม่ตอบก็คลิกส่งใบสมัครไม่ได้ ก็ไม่ส่ง ... ก็ซื่อสัตย์กับเค้าและกับตัวเอง ... ในสายงานที่ยุ้ยหาทำก็เป็นพวกเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์/ไอที ก็ไม่ค่อยเห็นเค้าระบุว่าต้องมี "ใบขับขี่" สักเท่าไหร่ น้อยถึงน้อยมากค่ะ
ระหว่างนี้ก็อ่านเกี่ยวกับตำแหน่งงานว่างเรื่อยๆ ก็ดีนะ ได้อ่านภาษาสวีเดนทุกวัน ทบทวนไปจะได้ไม่ลืม ได้เรียนรู้เพิ่มเติมโน่นนี่ด้วย อย่างเช่น สายงานเรามีบริษัทไหนบ้าง อยู่ที่ไหน เค้าทำอะไรยังไง ศึกษาไว้เผื่อเอาไว้ไปทำงานกะเค้าและขยับขยายในอนาคต น่ะคิดไปนั่น อิอิ
นอกจากนี้ก็ได้รู้ว่าตำแหน่งงานที่ตัวเองสนใจมากๆ เนี่ย เค้าต้องการคุณสมบัติไรบ้าง บางอย่างเราก็มีไม่ครบ เพราะหลักสูตรเราเค้าไม่ได้สอน บางอย่างเป็นแล้ว แต่ก็มีอะไรใหม่ๆ มาเพิ่มอีกที่เรายังไม่รู้ ... นี่ก็วางแผนหาเรียนเพิ่มเติมด้วยตัวเองตามอินเตอร์เนต ฟรี เยอะแยะ ที่เค้ามีตัวอย่าง Tutorial ให้ฝึกทำตาม มีทั้งเนื้อหาให้อ่าน แบบฝึกหัด ข้อสอบเล็กๆ ชอบเลยแบบไม่เสียตังค์เนี่ย ฮาาา... ถ้าอยากได้ใบรับรองเค้าก็มีให้เสียตังค์ไปสอบ หรือเรียนออนไลน์ ... ก็กะว่าเรียนเองก่อน แล้วค่อยไปสอบเอาใบรับรอง เอาไว้ไปอวดเค้าโก้ๆ อิอิ
นี่ก็พักมาได้อาทิตย์แล้ว ถึงตอนนี้ก็วางแผนจัดการชีวิตเรียบร้อยแล้วว่า ระหว่างรองานจะทำไรบ้าง ที่แน่ๆ ก็อยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว ประหยัดหน่อย เพราะซีเอสเอ็นไม่ได้เลี้ยงดูแล้ว ส่วนเรื่องที่ที่ค้างไว้ก็เคลียร์ตัวเองเรียบร้อย รู้สึกโล่งสบายตัวไงก็ไม่รู้ แบบว่า พร้อมลุยงานแล้ว เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น อิอิ
// ยุ้ย
** อ่านเรื่อง "การเขียนจดหมายสมัครงาน" ได้ที่นี่
** อ่านเรื่อง "หาทางสร้างโอกาสให้ตัวเองได้งานดีๆ ทำ" คลิกที่นี่
|