: Diary :
+ 2010 + 2553 +
การซ่อมแซมบ้านอันวุ่นวาย / ตุลาคม - พฤศจิกายน 2553
LKF ทุบห้องน้ำทิ้ง แล้วก็เจาะกำแพงระหว่างห้องน้ำกับห้องเสื้อผ้า... ปรับโฉมใหม่ ให้โมเดิร์น
เค้าจะทำห้องน้ำให้ใหญ่ขึ้นแล้วทำห้องเสื้อผ้าให้เล็กลง...
ให้ตายซิ นังยุ้ยไม่อยากได้ห้องน้ำใหญ่ๆ ถึงขนาดตีแบดมินตันเล่นได้นะ... ขนาดนี้โอเคแล้ว
แต่อยากได้ตู้เสื้อผ้าใหญ่กว่าเดิมต่างหากเล่า... ชอบช้อปเสื้อผ้าค่ะ อิอิ
ก็ได้รับ จม. แจ้งมาว่าให้เคลียร์ห้องน้ำ และห้องเสื้อผ้าให้เรียบร้อย แต่ก็ยังไม่ได้เริ่มเก็บ เพราะว่ายุ่งที่ รร
กำลังจะกลับบ้านซานต้าโทรไปบอกว่า เค้าเอาตู้ไรมาวางในบ้านก็ไม่รู้ ขวางทาง เดินแทบไม่ได้
พอมาถึงบ้าน โห... เอาอะไรคิด วางขวางทางเข้าบ้านเลย ตู้เสื้อผ้า 2 หลัง ... ซานต้าแกตัวโต ก็งงว่าแกมุดเข้าออกได้ไง
โมโห ก็เลยไปบอก คนคุมงานว่า ขึ้นไปย้ายให้เป็นที่เป็นทางเดี๋ยวนี้เลยนะ
ก็เก็บข้าวของจากห้องเสื้อผ้า ห้องน้ำ มาวางรวมๆ ไว้ในห้องรับแขก ห้องนอน ที่ๆ พอว่างแถวๆ โต๊ะทำงาน
ยกย้ายของข้ามไปมาลำบากมาก เพราะว่าตู้ 2 หลังวางขวางทางเดิน เก็บของไปก็แค้นไป...
เสื้อผ้าก็ยัดใส่ตู้เสื้อผ้าอันใหม่ไป อะไรพอยัดใส่ไปได้ก็ใส่ไป
ไปๆ มาๆ ที่ไม่พอวาง แทบจะไม่มีที่จะเดิน ก็เลยแบ่งไปไว้ที่ห้องใต้ดิน อ้าว ห้องใต้ดินล้นอีก ทำไงล่ะ ทางเดียวคือ เลือกของทิ้ง...
แต่ก่อนวันๆ คิดอยากแต่จะ้ช้อปของใหม่ๆ ยัดใส่ห้องเสื้อผ้า... ซื้อของมาประดับบ้าน ซื้อต้นไม้มาเลี้ยงเพิ่ม
แต่ตอนนี้ คิดใหม่ทำใหม่ จะโยนตัวไหน ชิ้นไหนทิ้งอีกดี... เหอๆ ทิ้งไปเยอะพอควร
อาลัยอาวรณ์กันกว่าจะตัดใจทิ้งได้ 555+
เก็บหนังสือ ข้าวของเก่าๆ ของซานต้าไปทิ้งด้วย แรกๆ แกไม่ยอม แต่ทำไงได้เล่า เห็นก็เห็นอยู่
รูปข้างล่างอันแรกนี่ถ่ายจากห้องเพื่อนบ้านที่อยู่ชั้น 1 (18 ต.ค.)... เดินผ่าน พอดีกล้องอยู่ในมือเลยแอบถ่ายมาฝากตาซานต้า
บอกได้คำเดียวว่า นรกครับพี่น้อง ทั้งเจาะ ทั้งทุบ ดังมาก ไม่อยากจะคิดว่า ถึงทีของห้องข้าเจ้าแล้วจะได้ถึงนรกขุมไหน... ???
เค้าบอกมาว่าจะใช้เวลาซ่อมห้องน้ำบ้านละ 20 วัน ... นี่แค่เจาะห้องน้ำเพื่อนบ้านชั้นล่างสุดห้องเดียว แต่ฝุ่นบินไปอยู่ทุกชั้นเลย ... เละ... อ่านหนังสือไป ก็เสียง ครืด ๆ ๆ ... หลับไม่ลงเลย 555+... เจ้าหน้าที่ดูแลตึกก็บริการดีมาก แจกที่อุดหูมาเพียบ... ใช้กันไม่หวัดไม่ไหวเลยนี่... เฮ้อ... กำลังเครียดเรื่องเรียน ทั้งสอบทั้งรายงาน เหนื่อยพอตัวแล้วอ่ะ... ต้องมาเจออะไรแบบนี้อีก
20 ต.ค. 2553 และแล้วก็ถึงคราของบ้านเรา เจาะ ๆ ๆ ครืดๆ บางทีก็ทุบไรไม่รู้ ดังสนั่น หวั่น และ ไหว ไปหมด... แอบกลัวด้วย ก็ตึุกมันหวั่นอ่ะ... โอยยยย... ดังมากครับพี่น้อง ไม่รู้จะทำไงดี ก็ทนๆ ไป... หนังสือหนังหาอ่านไม่ได้เรื่อง งานก็ทำไม่ได้อ่ะ... ก็เลยไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด รร ก่อนกลับบ้าน... อืม... ค่อยได้เรื่องหน่อย แต่ก็อยู่ไม่ได้นาน เพราะเหนื่อย เพราะหิว ก็กลับบ้าน มาถึงบ้านก็นั่งเล่นๆ เรื่อยเปื่อย พักผ่อน รอเค้าเลิกงานตอน 4 โมงเย็น พอเค้าไปแล้วก็เริ่มปฏิบัติการ แต่ก็ไม่ได้เยอะ เหนื่อยบวกเครียดอ่ะ ได้นอนไม่เต็มที่ด้วย
ทุกๆ วันคนทำงานก็จะมาปลุกกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า พูดกันโหวกเหวกโววาย เคาะ ตอก ปังๆ บางทีก็เคาะประตูเรียก ... กว่าจะเลิกงานกันได้ ... จะเข้าห้องน้ำทีต้องวิ่งจากชั้น 4 ลงไป แล้วก็ออกนอกตึก จะอาบน้ำก็นะ ... ถ้าเป็นเมืองไทยคงสนุก ลองเท้าแตะ ผ้าขนหนูพาดบ่าเน๊าะ แต่ว่านี่... แค่คิดก็สั่นก่อนแล้ว บรี๋ยยย... บางวันถ้าไม่มีเรียนก็ ลงเอยด้วยการซักแห้ง 555+
รูปข้างบนนี่ถ่ายเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2553 มันคือห้องส้วมห้องน้ำค่ะ ... โครงการซ่อมห้องน้ำและอื่นๆ ในตึก สร้างเรื่องราวมากมายให้พจญภัย... ที่ประทับใจก็ ห้องน้ำและส้วมนอกบ้านที่เห็นในรูป ตั้งอยู่หลังตึก หอบตะกร้าใส่สบู่แชมพูและอื่นๆ ที่อยากใช้ไป ... อาบอย่างสบายใจ ข้างในอุ่น บางวันก็แจ๊คพอต เครื่องทำน้ำร้อนเสีย อืม ก็อาบไปงั้นแหละ เย็นยะเยือก ... บรึ๋ยย... สั่นฟันกระทบกันเลย อาบเสร็จก็ไปนั่งหน้าเครื่องทำความร้อน ระหว่างเดินเข้าบ้านก็แอบสั่น เพิ่งอาบน้ำสระผมมา บรึ๋ยย... ก็ชอบอาบน้ำตอนเช้า และต้องทุกวันด้วย เอาเหอะ เช้าๆ หนาวเป็นบ้า...
มาวันนึงกำลังจะออกไป รร รีบๆ เค้ามาบอกว่า อ้าว ทำไมไม่ย้ายข้าวของออกจากตู้ล่ะ? ... ตู้ที่ใส่พวกข้าวของ หรืออาหารแห้งเหนือเตาเหนืออ่างล้างจาน... หน้าเอ๋อ ใส่ไป งง โดนรุมด้วย 3 ชาย... เค้าบอกว่า ก็ส่ง จม. มาบอกแล้วนะ ... เราก็ไม่ได้ตอบอะไรไป แต่คิดในใจแค่ว่า ตูไม่เห็นนี่ พอตั้งสติได้ก็บอกว่า ชั้นไม่รู้ล่ะ ไม่ได้ จม. ตอนนี้ต้องไปเรียนแล้วทำให้ไม่ได้หรอก กลับมาบ้านก็เย็นโน่น เค้าก็เงียบไปแล้วบอกว่า งั้นกลับมาทำตอนเย็น วันรุ่งขึ้นต้องเรียบร้อยนะ... แอบโกรธแล้วก็ไป รร พอกลับมาบ้านก็ทำ แล้วก็เมล์ไปร้องเรียนว่า ไม่ได้ส่ง จม. มาแล้วอยากได้อะไรก็เอาให้ได้เลย เป็นไปไม่ได้ ชั้นมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบจะให้มารอทำตามที่บอกไม่ได้หรอก ไม่ได้หนเดียว มีเรื่องอื่นก่อนหน้านี้ด้วย ไหนว่าจะแจ้งล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์ไง?
มาดูสภาพห้องน้ำที่บ้านกัน เค้าเจาะกำแพง โล๊ะเอาโถส้วม อ่างล้างมือ อ่างอาบน้ำออกไป เจาะพื้น เลาะกระเบื้องฝาผนัง เค้าเจาะนิดนึงที่ทางเดินเข้าบ้านด้วย แล้วก็วางของไว้เกะกะไปหมด
กินฝุ่นกันไปหลายอึก ขนาดเค้าเอาผ้าพลาสติกมาปิดประตูกันฝุ่นไม่ให้เข้ามาหาในห้องใหญ่ที่เรานั่ง แต่ก็ยังมีฝุ่นรอดมาได้ไงไม่รู้อ่ะ ทำความสะอาดกันไม่หวัดไม่ไหวเลยทีเดียว เค้าเอาพลาสติกปิดประตูกันฝุ่น จะเิดินเข้าออกก็ลำบาก บางทีออกไม่ได้ ไม่มีใครเปิดให้ก็ดันแรงๆ ให้พังไปเลย ไม่ได้แกล้งเค้านะ แต่ต้องออกไป รร เค้าก็ทำท่าเคืองๆ แหละ บางทีเค้าก็เอาของมาวางขวางประตู เรียกเค้าก็ไม่ได้ยินหรอก เค้าเจาะยุ ก็พลักไปแรงๆ ... ขอโทษเหอะ มันต้องทำนิ
อยู่กับความสับสนวุ่นวาย ปรับตัวไม่ได้ ยากนะคะ เสียงดัง ผู้คนวิ่งเข้าออกบ้านเป็นว่าเล่น โน่นนี่ บ้านสกปรกมาก ฤดูใบไม้ร่วง ฝนตก เฉอะแฉะ เละเพราะว่าฝุ่นอีก ไปๆ มาๆ บุญมาปากบวมแดง พอไปจับขอดูบุญมาโกรธมากมั้ง ตบไม่ยั้งเลย ไม่เคยเห็นบุญมาเป็นแบบนี้ จะพาไปหาหมอก็แพงล่ะ ... เลยโทรไปถามพี่ที่รู้จัก เค้าบอกว่า ติดเชื้อเพราะพื้นไม่สะอาด บุญมานอนไปทั่ว เลียตัวเอง ... อืม เป็นไปได้ เพราะว่า หลังๆ ทำความสะอาดไม่ไหวก็ปล่อยเลยตามเลย พื้นสกปรกมากอ่ะ เหอๆ ...
โอยสุดจะบรรยายค่ะ ... ก็บอกกับตัวเองว่า... "อย่าเอาความวุ่นวายภายนอก มาก่อให้เกิดความวุ่นวายภายใน"... ได้แต่บอก แต่ทำไม่ได้ รู้ตัวว่าเครียดขึ้นๆ มันประดังมาจากทั้งที่ รร ด้วย... บ่นๆ แล้วก็บ่น
และแล้วก็... ได้โมโหอีก ... โดนยึดพื้นที่ไปเยอะแล้วแล้ว อัดทุกอย่างไว้ ที่แทบจะไม่มีเดิน... จู่ๆ เค้าก็มาบอกว่า ให้ย้ายชั้นหนังสือ เตียงนอน โซฟา เครื่องซักผ้า โต๊ะในครัว และอื่นๆ ที่บังสายไฟปลั๊กไฟออก เพราะเค้าจะซ่อมไฟทั้งหมด...แม่เจ้า เอาอะไรคิด... สุดจะทน โมโหสุดๆ คนที่เดินมาบอกโดนไป 1 ชุดใหญ่เต็มๆ เลยคร้าบพี่น้อง... อยากมาทำไรก็ทำ ทำเอง ไม่ย้าย ไม่ช่วย ไม่สน ตูจะสอบวันอาทิตย์นี้เฟ้ยยย...
ระหว่างที่บ่นเค้านั่น ก็รู้ตัวเองเลยว่า โมโหมาก ไม่เคยโมโหขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะ หน้าร้อนเลยอ่ะ ... นี่ละมั้งที่เค้าเรียก โมโหจนเลือดขึ้นหน้า... ไม่ได้แล้วมันเยอะไป บอกกับตัวเองว่า ต้องหาทางลด และปรับ ไม่ได้โมโหแบบนี้อีก ความโมโหคือไฟ มันทำเผาร้ายภายในร่างกายเรา และทำให้เราทำร้ายภายนอกด้วยคำพูดอีก... หันไปพึ่งธรรมมะ สวดมนต์ ดูอารมณ์ตัวเองตลอด พยายามปรับ...
เอ้า พอเค้าทำไฟเสร็จ เก็บข้าวของเข้าที่ จะจัดการกับเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เข้าที่เข้าทาง ก็เฮ้ย ไรนี่ เค้าเปลี่ยนปลั๊กใหม่ เครื่องใช้หลายอันเสียบไม่ได้ งงไปเลย ... โดยเฉพาะโคมไฟ ... ทำเองไม่เป็นก็แจ้งเจ้าหน้าที่เค้าไปว่า มาทำให้ด้วยนะ ทำไม่เป็น ระหว่างรอบางส่วนของบ้านก็อยู่ความมืดไป
แล้วก็มาอีกล๊อตจู่ๆ เค้าก็มาบอกว่า จะต้องปรับพื้นครัวด้วย เรื่องเกิดจากว่า เครื่องซักผ้าอันเก่าของซานต้า น้ำรั่วลงพื้นบ่อย พื้นเลยเสีย ... โทรมาเสร็จ แป๊บนึงก็ส่งชายหนุ่ม 2 คนมาขนของ เค้าบอกว่า จะหาห้องเก็บให้ เอ้า เอาไปเลย แค่ในห้องก็จะไม่มีที่เดินแล้ว ... แต่ก็ซวยแล้วเรา จะไม่มีครัวแล้วหรอนี่ ก็นะ... สองคนกับซานต้าก็คิดว่า ต่อไปนี้เราจะกินมาม่าเพื่อสุขภาพ... โดนยึดพื้นที่ครัวทั้งหมดแล้ว... หมดเร็วๆ นี้แน่ 3 กล่องที่ซื้อมาตุนไว้... เมื่อไม่มีครัวแล้วก็หาืซื้ออาหารฝรั่งกึ่งสำเร็จรูปมากิน ใส่ไมโครเวฟ ใส่เตาอบ ขนมปังทาแยม สารพัดที่จะหามาได้ล่ะ ไปๆ มาๆ ไม่ไหวค่ะ เลี่ยน เบื่อ ก็เลยหันไปซื้อข้าวปลาตามร้านอาหารในเมืองมากิน ก็นะไม่อยากจะพูดเลยจริงๆ ... ละไว้ในฐานที่เข้าใจกันก็แล้วกันนะคะ และต่อมาก็ได้เพื่อนและพี่ใจดีแบ่งปันอาหารไทยมาให้... ค่อยยังชั่วหน่อย ขอบคุณมา ณ ที่นี้อีกครั้งนึง
ในระหว่างความสับสนวุ่นก็เห็นว่าการปรับปรุงดูเหมือนจะไม่สิ้นสุด เค้าส่ง จม. มาแจ้งจะทำโน่นทำนี่อยู่เรื่อยๆ เลยไปโวยวายกับคนดูแลโครงการ ว่าอ่านหนังสือ ทำงานไม่ได้ บางทีก็ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟ ไม่มีโน่นนี่ เครียดจะแย่อยู่แล้ว ที่ห้องสมุด รร ก็ซ่อม อ่านหนังสือไม่ได้ ไม่มีที่จะไป เค้าเลยจัดห้องให้ห้องนึง ไปนั่งอ่านหนังสือ ค่อยยังชั่วหน่อย อยู่ตึกข้างๆ กันนั่นล่ะ มีห้องน้ำ ห้องครัว ถ้าจะเอาอินเตอร์เนตไปต่อก็ได้ แต่ไม่ได้ทำ ไม่มีรมณ์ หุหุ ไปนั่งอ่านหนังสือเฉยๆ บางวันก็หอบเจ้าบุญมาไปเป็นเพื่อนด้วย
พอเค้าเลิกเจาะห้องเรา แต่ก็ยังเจาะห้องอื่น ทั้งตึกอ่ะ คิดดูแล้วกันว่า เครียดจนเลิกเครียดเลยค่ะ ชินไปเลย จะดังยังไง ก็ดังไป เหอๆ ... การซ่อมปรับปรุงของเค้าช้ามากๆ เลย คิดว่าเป็นเพราะว่า แต่ละส่วนต้องรอช่างเฉพาะมาทำ คนเจาะก็เจาะอย่างเดียว คนทาสีก็ทาสีอย่างเดียว ประมาณนี้ ถามเค้าว่าเมื่อไหร่จะเสร็จเค้าก็ตอบไม่ได้ พอใกล้กำหนดวันเสร็จแล้วก็ไม่มีวี่แวว... ได้รับคำตอบว่า ทำไม่ได้ตามกำหนดเพราะว่า บริษัทที่สั่งของไป มาส่งของไม่ได้ตามเวลาที่กำหนด อ้าววว...
ส่วนในครัวพอเจาะพื้นแล้ว ปรับพื้นแล้วก็ไม่จบแค่นั้น เค้าต้องมีเครื่องมาดูดความชื้นออกด้วย แรกๆ ปรับตัวไม่ได้ มันดูดความชื้นออกไปจากห้อง หายใจไม่สะดวก คอแห้งตลอด ต้องเปิดหน้าต่างตรงที่โต๊ะทำงานเล็กน้อย วันแรกที่เค้าติดเครื่อง ตาซานต้านอนอยู่ เราไป รร ทั้งวัน พอกลับมาบ้านก็ไปดูซานต้าที่เตียง แกแบบตาลอยๆ งงๆ แล้วก็บอกว่า รู้สึกแปลก ๆ ... จะไม่แปลกได้ไง ก็เค้าติดเครื่องดูดความชื้นออกไป พอชั้นเปิดประตูเข้าบ้านมา ก็ได้อากาศแปลกๆ แล้ว หายใจไม่ถนัด เครื่องดูดความชื้นก็เสียงดัง เปิดทั้งวันทั้งคืน ขวางทางเดิน วางไว้กลางครัวเลย และเค้ามีท่อแหลมๆ โผล่ออกมาจากพื้นปูนเพียบเลย ต้องเิดินข้ามทุกวัน กลัวล้มและเสียวพุงเป็นบ้าเลย พอมีเจ้าหน้าที่มาก็ถามว่า จะดูดความชื้นไปนานเท่าไหร่เนี่ย? เค้าบอกว่า จนกว่าจะไ้ด้ตัวเลขที่แสดงบนเครื่องตรงตามเกณฑ์ ... เ่อ่อ... ไร้จุดหมายเลยเรา
ห้องน้ำก็คืบหน้าไปเรื่อยๆ ใกล้จะเสร็จ แต่ก็ไม่เสร็จ รอๆ ๆ ... และแล้วเค้าก็บอกว่า นี่เธอห้องน้ำเสร็จแล้วนะ ใช้ได้ตั้งแต่เย็นนี้เป็นต้นไป ได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจ ยิ้มหน้าบานเลย ...พอเย็นๆ เดินเข้าไปจะใช้ อ้าว มืดเชียว ไม่มีไฟ ฮ่วย อุตส่าห์แอบดีใจ จะได้ใช้ห้องน้ำซะที ... เรื่องก็มาจากว่า บริษัทที่สั่งซื้อหลอดไฟในห้องน้ำ หามาส่งให้ไม่ได้ ... ต่อมาเค้าก็เอาไฟอะไรมาติดให้ก็ไม่รู้ ... ฮู่ โล่ง ไม่ต้องไปพจญภัยข้างนอกตึกแล้ว เพราะว่า อากาศก็เย็นลง ๆ หิมะทำท่าจะมาเร็วด้วยปีนี้
และแล้วห้องน้ำก็เรียบร้อย แต่ว่าก็มีปัญหาเล็กๆ น้อย ก๊อกน้ำ ทั้งในห้องครัวและห้องน้ำ หมุนไปทางฝั่งน้ำร้อนได้นิดเดียว หมุนไปเยอะมันก็ตีกลับเองอ่ะ น้ำก็ไม่เย็น แต่ก็ไม่ได้อุ่นที่พอจะล้างไขมันออกจากจานชามได้ ถ้าจะให้ร้อนต้องบิดข้างไว้ เอ้ามือนึงก็จับก๊อกมือนึงก็ล้างจาน งงไปหมด เวลาอาบน้ำก็ต้องจับก๊อกให้ข้างไว้ อีลีเม้นต์ในห้องน้ำก็ไม่ร้อน ปลั๊กไฟในห้องน้ำ ไฟไม่เข้า ไอ้ที่ขอให้เค้ามาเปลี่ยนปลั๊กโคมไฟไว้ให้ก็ไม่ได้ทำ และอื่นๆ ก็แจ้งไปให้เค้ามาแก้... วุ่นวายดีเน๊าะ
อ๊ะห้องน้ำเสร็จ ก็เหลือครัว ดูไร้จุดหมายเหลือเกิน เค้าเงียบไปเลย เปิดเครื่องดูดความชื้นไว้นานแล้ว ยังไม่มีไรคืบหน้า ไม่แจ้ง ไม่มีอะไรมาบอกเรา ก็เลยให้ซานต้าเมล์ไปว่า ต้องมาทำให้เสร็จก่อนคริสมาสต์นะ มันนานแล้ว เสียงดัง อยากให้จบๆ ไปซะที ... ซานต้าแกก็เริ่มเครียด เริ่มบ่นแทนเรา เพราะว่าเราบ่นจนบ่นไม่ออกแล้วอ่ะ 555+ ปลงไปแล้ว... ซานต้าแกก็เหนื่อย นอนไม่เต็มที่ เพราะแกชอบนอนกลางวัน พอไม่ได้พักก็เหนื่อย ได้เจอคนแก่คนอื่นๆ เค้าก็บ่นแย่เหมือนกันล่ะ
ระหว่างที่เค้าซ่อมโน่นซ่อมนี่ ก็ดีอย่างนึงที่เค้าให้อยู่ฟรี... ส่วนเรื่องบริการให้ความสะดวกอื่นๆ และตอบเมล์ไขข้อสงสัย หรือบริการเวลามีปัญหานี่ ช้ามาก ถึงมากที่สุด บางทีเค้าก็โยนกันไปโยนกันมา หาคนทำไม่ได้สักที เหอๆ ... ยังมีเรื่องอีกเยอะแยะมากมายค่ะ แต่พอและ โม้มายาวแล้ว 555+
ก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างจากการซ่อมปรับปรุงสารพัดสารเพเนี่ย... มันช่างเป็นช่วงเวลาที่โหดร้ายมากเลยอ่ะ... แต่อีกด้านนึงก็ต้องขอบคุณ เพราะทำให้เราขวญขวายเข้าหาธรรมะ เพื่อหาทางระงับความโหโม ความโกรธ หาทางตั้งสติ รู้จักคิด กำหนดรู้ภาวะต่างๆ ของตัวเอง ไม่ให้หลงไปตามสิ่งยั่วยุภายนอกมากจนเกินไป ... ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็ยังเห็นพัฒนาการของตัวเองที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ล่ะ... ก็ดีค่ะ เอาไว้ปรับใช้กับชีวิตประจำวันอื่นๆ หรือเรื่องอื่นๆ ในอนาคต ... ตอนนี้ก็ได้แต่รอให้ทุกอย่างจบๆ ลงไปซะ... ก็พยายามมองดูว่า ทุกอย่าง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป มันมีวันและเวลาของมัน ดูๆ มันไป...
เสียง - ปาฐกถาธรรม โดย ว.วชิรเมธี
พระอานนท์พุทธอานุชา - ธรรมจักร
|