: Diary :
+ 2010 + 2553 +
เรื่องเล่าหลังเลิกเรียน / มีนาคม 2553
22 มีนาคม - สัมมนา
วันนี้มีสัมนาภาคบังคับ คนงี้แน่นห้อง เก้าอี้ไม่พอ ถึงขนาดต้องยืนกันสองสามคน ... ครูเล่นแบบว่า เอ้าเขียนชื่อใส่กระดาษแล้วตั้งไว้หน้าตัวเอง เพื่อนนั่งข้างๆ บอกว่า อารมณ์ราวๆ สมัยชั้นเรียนอนุบาลเลย บ่นไปก็พับกระดาษไป เขียนชื่อ แล้วก็ตั้ง ... ใจก็เต้นตุ๊บๆ อย่าเรียกเล้ย ขี้เกียจตอบ นึกเข้าข้างตัวเองในใจ เอาว่ะ ครูเห็นชื่อแล้วคงไม่อยากเรียก ชื่ออ่านยาก ครูคนไหนก็อ่านผิด
ก็สัมนาเรื่องที่เรียนมานั่นแหละ ครูการบ้านมา ตอบคำถาม 5 ข้อ ความยาว 2 หน้ากระดาษ A4 และให้ทำส่งเมล์ไปก่อนถึงเวลาเรียน งานเดี่ยวเขียนเองกับมือ ถ้าโดนเรียกให้ตอบก็คงจะยกไอ้ที่เขียนมาตอบนั่นแหละ แต่เรื่องของเรื่องคือ เขียนไปถูกป่าวไม่รู้เลยกลัวๆ กับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ครูก็ถามว่า อ่ะให้เราเรื่องคร่าวๆ ว่าการบ้านเกี่ยวกับอะไร พอสิ้นเสียงครูก็ ... เงียบกริบ เงียบสนิทเลย แล้วเพื่อนคนนึงก็ตอบไป ครูก็ใครจะเสริมไร ก็เงียบกริบ ครูเลยเรียกชื่อทีละคนเลยทีนี้
พอถึงคำถามจริงๆ นังยุ้ยก็เกิดอาการอยากตอบ ยกมือ ร่วมแจมกับเค้าไปตลอด ไม่อยากรอให้ครูเรียก ครูเรียกทีไรก็เป็นตอนที่มันยาก เป็นอะไรที่เราตอบได้มั่งไม่ได้มั่ง ก็เลยคิดว่า อันไหนตอบได้ก็ยกมือตอบไปก่อน ครูเห็นว่าตอบบ่อยจะได้ไม่เรียกตอนที่คำถามยากๆ 555+ ... ก็ตอบไปตามประสา บางทีประหม่าก็พูดผิด เหอๆ ยากนะคะที่ต้องคิดว่า คำตอบคืออะไร ในขณะเดียวกันก็ต้องคิดว่าจะพูดไง และในขณะเดียวกันก็ต้องนึกถึงเรื่องไวยากรณ์ และในขณะนั้นทุกคนก็จ้องเราอยู่ และก็นะ... อ่ะ ก็รอดมาได้ด้วยดี ภูมิใจที่ตัวเองแอคทีฟ...
เรียนเสร็จราวๆ เที่ยงก็ดิ่งไปห้องสมุดของมหาลัยเพื่ออ่านหนังสือ อยากหาไรแปลกใหม่ทำเล่นๆ ไปงั้นน่ะ บรรยากาศเพื่อการอ่านหนังสือโดยเฉพาะ เป็นห้องเงียบ โต๊ะนั่งแบ่งเป็นช่องๆ นั่งอ่านหนังสือที่ใครที่มัน มีฝากั้นไม่เห็นว่าใครเป็นใคร แอบๆ มอง ก็มีแก้วกาแฟกันแทบทุกคนเลย เหอๆ ... ยุ้ยอ่านได้ไป 3 ชม. เกิดอาการกดดัน ไม่มีสมาธิ ฟุ้งซ่าน อยากเปลี่ยนอิริยาบถ หันไปมองคนอื่น อ่านกันไปได้ไงนี่ เชื่อเลย มาก่อนเรา กลับทีหลัง ขยันกันจริง... ส่วนตัวแล้วชอบอ่านที่บ้าน นั่งสบายๆ เปลี่ยนอิริยาบถได้ จะได้ไม่ตึงเครียดเกินไป งงตรงไหนก็อาศัยซานต้าแปลสวีดิชเป็นสวีดิชได้ ก็อ่านได้เรื่อยๆ ทั้งวัน หิวก็กิน เหนื่อยก็พักเล่นกับเจ้าบุญมา ... ก็ไม่เข้าใจว่า จะไปนั่งกดดันตัวเองทำไม ไปบ่อยเลย แล้วก็คิดจะไปอีก ฝึกความอดทนอดกลั้น 555+
19 มีนาคม - ข้อจำกัดทางด้านภาษา
นั่งทำรายงานไปก็อึดอัดไป เพราะว่าอยากพูดอีกหลายๆ เรื่องแต่ว่า ความสามารถไม่ถึง ใช่ว่ายุ้ยจะเก่งมากมายเรื่องภาษาสวีเดน พอไปได้ไปวันๆ น่ะ เขียนได้คล่องกว่าพูด เป็นเพราะนิสัยด้วยที่ไม่ค่อยชอบพูด ชอบเขียนมากกว่า เวลาคุยกันเรื่องรายงานทีไร แสดงความคิดเห็นนี่ก็ต้้องใช้กำลังภายในทั้งหมด คิด พูด เขียน... คิดว่าต้องพูดอธิบายยังไง คิดว่า ต้องเรียงประโยคยังไง คำไหนมาใช้ และอื่นๆ ... วุ่นอยู่ในหัวนั่นแหละ ... บางทีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็นะ ยาว ส่วนใหญ่เราหยุดก่อนเพราะว่า หมดพลัง 555+ อ่านมากเขียนมาก บางทีไม่เคยออกเสียงคำๆ นั้นเลย สุ่มออกเสียงไปถูกมั่งผิดมั่ง บางทีมันพูดไม่ได้อย่างใจอยาก ก็หยุดพูดซะงั้นแหละ .... เรียนรู้ปรับปรุงตัวเองไปเรื่อยๆ
แต่เืพื่อนๆ ในกลุ่มเค้าก็ไม่ได้ว่าไร หรือไม่กล้าว่า 555+ เราทำงานได้ เขียนได้ แสดงความคิดเห็นได้ ช่วยทำงานได้ก็โอเคแล้วสำหรับพวกเค้าล่ะ เข้าข้างตัวเองไว้ก่อน 555+ ก็บอกเค้าว่า มีไรก็บอกเราได้นะ ก็สมัครเรียนมหาลัยเพื่อลองเรียนดู ลองแล้วดันผ่าน ก็ลองเทอมสองต่อ เพื่อนที่ทำงานด้วยตอนนี้ก็คุ้นเคยกัน เรียนด้วยกัน คุยกันบ่อย พอครูให้จับกลุ่มกันเองเพื่อทำรายงานก็กระโดดรวมกันเลย รู้นิสัยใจคอกัน คุ้นเคยกันก็ทำงานด้วยกันง่ายหน่อย มีครานึงคุยกันเรื่องทั่วๆ ไป เพื่อนก็บอกว่า เธอพูดได้ดีขึ้นกว่าเดิมนะ ... ดีใจ ที่เรามีพัฒนาการ
แต่ก่อนอายๆ ไม่กล้า เด๋วนี้ไม่แล้ว ไม่สน ขอพูดไว้ก่อน ไม่เข้าใจก็อธิบายไปมา จนกว่าเพื่อนจะ อ๋อ นั่นล่ะ หลายครั้งมีปัญหาเรื่องการโน้มน้าวใจเพื่อน เราคิดว่า รายงานไม่น่าจะไปทางนั้น น่าจะมีอันนี้ แต่เพื่อนเค้าไม่ใส่ใจ เจอมาหลายหนแล้วที่คิดว่า ควรมี ควรทำ ก็บอกเพื่อนแล้ว แต่เห็นผลเราอ่อนเพราะข้ำจำกัดเรื่องภาษา ก็เลยทำให้เพื่อนเมินเฉย พอครูเค้าเม้นต์กลับมามันมีส่วนที่เราคิด แต่เพื่อนไม่สนใจด้วย... ไม่ได้ว่ารู้มากกว่า เพราะเรียนเหมือนกัน แต่ประสบการณ์ทำงานมากกว่า ได้เห็น ได้ทำ แล้วเห็นว่าควรเอาตรงไหนมาปรับใช้ตรงไหนมากกว่า ... เด๋วนี้นังยุ้ยสู้ตาย ถ้าเพื่อนไ่ม่สน ก็พาไปหาครูให้ตัดสินเลยว่า ควร หรือไม่ควร ... แหม่ อย่าคิดว่าเราดื้อนะ เราก็ฟังเพื่อน ถ้าเค้ามีเหตุผลเหนือกว่า เราก็รับของเค้า เราคุยกันด้วยเหตุผล แชร์กัน ช่วยกัน ลงเรือลำเดียวกัน ได้คะแนนด้วยกันนิ
18 มีนาคม - เรียนรู้เรื่องใหม่
เหนื่อยค้างจากเมื่อวาน ... เรียนเสร็จ ทำรายงานได้กันนิดเดียวก็หมดแรง คิดไม่ออก นั่งงมโข่งกัน เลยชวนกันเลิก ระหว่างทางก็แวะซื้อกับข้าว เดินขาควิดกับบ้านเลยวันนี้ พอถึงบ้านก็ งงงวย ไม่หิว ไ่ม่ง่วง ไม่อยากทำไร เจ้าบุญมาก็ร้องง้าวๆ อยากเล่น แต่ว่าไม่ไหว พักผ่อนได้แป๊บก็เริ่มนั่งลงอ่านหนังสือ ... อ่านๆ ไปก็ฟุ้งซ่านไปว่า ป่านนี้เพื่อนในห้องอ่านไปเกือบจบเล่มแล้วมั้ง? ... เมื่อวานคุยกับเพื่อนว่า ทำไมไม่ค่อยมีใครมาเรียน ไม่เห็นเค้านั่งทำรายงานแบบเราเลย... เพื่อนในกลุ่มบอกว่า เค้าคงนั่งขี้เกียจอยู่บ้าน เรื่อยเปื่อยไป... เด็กเพิ่งจบ ม.ปลายมาหมาดๆ ก็เงี้ย... เหอๆ ทำกันไปได้ไง งานล้นมือขนาดนี้ ไม่เริ่มตอนนี้แล้วจะทันป่าวนั่น? ถ้าทัน คุณภาพล่ะ? ...
ค่ำๆ ก็นึกอยากลงโปรแกรม Linux ใน NetBook อยากลองใช้ อยากเรียนรู้ Linux ดูบ้าง อยากมานานแล้วแต่ไม่ได้ฤกษ์สักที ... พอดีว่า NetBook เดิมเป็น Windows มันช้าเป็นเต่าย่อง ทนไม่ไหวก็เลยโล๊ะทิ้งซะเลย ก็ลงโปรแกรมโน่นนี่เพิ่มด้วย ก็น่าตื่นเต้นดี กะว่าจะหาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้มาอ่านสักหน่อย ทำไมถึงอยากเรียนน่ะหรอ? ก็เห็นว่าคนอื่นเค้าไม่ค่อยใช้กัน คนเป็น Linux ก็หาเรื่องสร้างข้อได้เปรียบตอนหางานน่ะ มีหลายบริษัทนะที่เค้ารับสมัครคนเป็น Linux ยุ้ยเรียนเกี่ยวกับการดูและระบบข้อมูล เขียนโปรแกรม และก็อื่นๆ ก็เลยหาเรียนรู้อะไรๆ ที่คิดว่าเกี่ยวข้องกับอาชีพตัวเองในอนาคตด้วย
นี่ก็อยากได้มือถือ Android เอามาสร้างแรงบันดาลใจให้หัดเขียนโปรแกรมใช้เอง แต่ว่าเครื่องแพงจัง ... ตอนนี้ก็อยากเรียนเรื่องเขียนโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับ Android นะ แต่ขาดเวลาและแรงกระตุ้น ... เรื่องของเรื่องหาข้ออ้างเพราะอยากได้มือถือใหม่ อันปัจจุบัน แบตเสื่อมสภาพ เครื่องช้าๆ เอ๋อๆ ไงไม่รู้อ่ะ หาเรื่องโล๊ะของเก่าว่างั้นเหอะ 555+
รู้สึกว่าตัวเอง เีรียนๆ ... ไม่ค่อยว่างฝึกทักษะ พัฒนาฝีมือในทางที่ตัวเองชอบเท่าไหร่เลย ... เวบดีไซด์ ถ่ายรูป ... ฮืม ... ทำไงได้ ต้องเลือกจับปลาทีละตัวอ่ะ เราเรียนภาคภาษาสวีเดน เวลาหมดไปกับอ่านหนังสือ ทำรายงาน ทำการบ้าน ... ก็อาศัยขยัน กัดฟันต่อสู้ เพื่อเส้นชัยที่วาดหวังไว้... ลาภ (เงิน+โอกาศอื่นๆ) ยศ (งาน) สรรเสริญ (การยอมรับทางสังคม)
17 มีนาคม - เหนื่อย
เหนื้อยเหนื่อยวันนี้... ช่วงนี้อ่านหนังสือเยอะมาก เพิ่งสอบมาเมื่อสัปดาห์ก่อน สอบเสร็จวันต่อมาเลยก็มีงานเข้ามาอีกเพียบ โปรเจคประจำเทอมนี้น่ะ กะว่าจะพักผ่อนวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาก็ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งอ่านบท ความเล่มโตเพื่อเตรียมตัวไว้เขียนรายงาน ไหนต้องอ่านหนังสืออีก อาทิตย์นี้เริ่มเรียนวิชาใหม่ ดูตารางเรียนแล้วนะ.. เรียนทุกวันเลย วันต่อมาครูไปหาบทความงานวิจัยมาให้อ่านอีกเป็นสิบเรื่อง เห็นแล้วเอ๋อเลย แถมต้องเขียนรายงานเกี่ยวกับไอ้พวกนี้อีก งานเดี่ยวด้วย คางเหลืองอีกแน่เสาร์อาทิตย์นี้ ไปเรียนก็รู้เรื่องไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะว่าครูเค้าเป็นชาวต่างชาติสำเนียงแปลกๆ เพราะว่าเค้าออกเสียงหลายๆ เสียงในภาษาสวีเดนไม่ได้ กำลังปรับตัวอยู่นี่ เริ่มพอจับทางได้แล้ว ครูเค้าเก่งมาก สอนดี ยกตัวอย่างได้เห็นภาพ เน้นๆ เนื้อ ๆ แกเขียนหนังสือเองด้วย สุดๆ น่ะ
วันๆ นึงก็ตื่นมาอ่านหนังสือ สายๆ ไปเรียนบ่ายๆ ก็นั่งเขียนรายงานกับเพื่อนราวๆ 3-4 ชม. กลับบ้าน พักผ่อน กินข้าว เล่นกับเจ้าบุญมา แล้วก็นั่งอ่านหนังสือจนเกือบๆ เที่ยงคืน เล่นกับบุญมาก่อนนิดหน่อยแล้วก็นอน ... เป็นอย่างเงี้ยทุึกวันเลย บางวันก็มีงานของอีกวิชานึงให้ทำด้วย ตอนนี้เรียนอยู่ 2 วิชาน่ะ ... ก็พยายามขยันสม่ำเสมอ อ่านหนังสือก่อนไปเรียน ทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ และก็นอนพักให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้... แต่ก็ไม่วายที่จะเหนื่อย เพราะอะไร คิดว่าเป็นเพราะเราอยู่กับภาษาที่ไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่เราน่ะ วันไหนที่ต้องพจญภัยกับภาษาสวีดิชนานๆ นี่จะเพลียมากมาย พยายามฟัง พยายามเข้าใจ คิด พูด เขียน วันนี้เบลอมากๆ นั่งเงียบ เหม่อ จนเพื่อนเรียกแล้วเรียกอีก บางทีเรียกเราก็ไม่ได้ยิน ซะงั้น
ทำไงได้... ก็ต้องสู้ต่อไป เราอ่านหนังสือกระดึ๋บๆ อ่านให้เข้าใจ ให้จำทีเีดียวไปเลย... เห็นเพื่อนๆ เค้าคุยว่าอ่านไปได้ครึ่งเล่มแล้ว อ่านโน่นแล้วอ่านนี่แล้ว ... ฮ่วย ตูยังไม่ไปถึงไหนเลย เอาว่ะ ต่อให้ก่อนเจ้ากระต่ายน้อย เต่าแก่อย่างชั้นช้าแต่ชัวร์ฟร่ะ ภาษาของเธอนี่ เต็มที่เล้ย... หลายครั้งหลายคราวบ่นกับซานต้าว่า ทำไมชั้นไม่เกิดเป็นคนสวีเดนตั้งแต่แรกนี่... ซานต้าตอบว่าไงรู้มั๊ย? ... ถ้าเธอเกิดมาเป็นคนสวีเดน เธอก็ไม่สวย เซ็กซี่แบบนี้ ชั้นก็ไม่เอาเธอมาเป็นแฟนหรอก ... เง้อออ... ช่างคิดนะนั่น กระโดดจูบซะหนึ่งที 555+
|