: Diary :
+ 2008 + 2551 +
Jag är ett barn igen / 10 febuari 2008
Jag är ett barn igen.
De har tagit mitt språk.
Jag kan inte längre uttrycka
mig som jag kunde förut.
ฉันกลับเป็นเด็กอีกครั้ง
พวกเขาเอาภาษาของฉันไป
ฉันสื่อความรู้สึกของฉันไม่ได้
ไม่เหมือนอย่างเคย...ไม่เป็นเหมือนก่อน
Jag är ett barn igen.
De har tagit min identitet.
Jag är inte längre den
som jag var förut.
ฉันกลับเป็นเด็กอีกครั้ง
พวกเขาพรากความเป็นตัวฉันไป
ฉันไม่ใช่ฉัน...เหมือนอย่างที่เคยเป็น
Jag är ett barn igen.
Men jag ville komma hit.
Jag kunde inte längre stanna
där jag var, tror jag.
ฉันกลับเป็นเด็กอีกครั้ง
แต่ฉันก็อยากมาอยู่ที่นี่
เพราะฉันอยู่ที่เก่านั้นต่อไปไม่ได้
Jag är ett barn igen.
Det blir ett nytt liv.
Jag har fått en chans.
Den tar jag gärna.
ฉันกลับเป็นเด็กอีกครั้ง
มันจะเป็นชีวิตใหม่
ฉันได้รับโอกาส
โอกาสที่ฉันรับมันไว้...ด้วยความเต็มใจ
ที่มา: http://thailandska.se/index.php?showtopic=465
ข้อความข้างบนเนี่ยไปอ่านมาจากเวบบ้านไทย อ่านแล้วโดนสุดๆ ก็เลยแอบเก็บเอามาไว้ในเวบตัวเองซะเลย อิอิ ก็วันๆ เอาแต่มุดหัวเรียนสวีดิช พูดแต่สวีดิช เขียนแต่สวีดิช ฟังวิทยุสวีดิช อ่านข่าวก็ภาษาสวีดิช ทำอยู่อย่างเงี้ยมาเนิ่นนานหลายเดือน นานๆ ได้ใช้ภาษาไทยที ภาษาไทยก็เลยเริ่มแปล่งๆ
พอจะพูดไทยก็พูดแปลกๆ พูดๆ ไปงงตัวเอง ฮ่าๆ ๆ จะบอกว่าหัวนึกเปนภาษาสวีเดนก่อนแล้วแปลมาเปนไทยแล้วก็พูดออกไป มันก็เลยมั่ว อิอิ ภาษามันไม่สระสลวยเปนธรรมชาติเหมือนก่อนน่ะ แหม อย่าหาว่ากระแดะเลย มันเปนไปตามธรรมชาติลงโทษ ไม่พอใจตัวเองเหมือนกันนะ เพราะว่า อะไรเกิดไทยโตที่ไทย แต่มาอยู่ที่สวีเดนไม่นาน ภาษาไทยเสียหายไปหลายแสนแว้ว
จะได้พูดไทยก็ตอนเจ้ยโทร.มา นานๆ ที และก็ตอนไปวัดน่ะ เหอๆ ไปวัดก็ไม่ได้คุยเท่าไหร่หรอก เพราะเปนคนเงียบๆ ในที่สาธารณะน่ะ อิอิ ถ้าได้พูดล่ะก็ยาวเปนต่อยหอยเลยแหละ เดือนๆ นึงนับครั้งได้เลยว่าได้พูดไทยกี่ครั้ง อ่อ บางทีเวลาพูดก็นึกคำไทยไม่ออก นึกสวีดิชได้ก่อน เหอๆ ไม่ได้เปนแค่เราคนเดียวหร้อก คนอื่นก็เปนกันน่ะ
เรื่องเขียนก็เริ่มออกอาการด้วยเหมือนกัน สะกด ไม่ค่อยได้อ่ะ ขาดความมั่นใจในการเขียน พูดงงๆ ก็เขียนอะไรงงๆ เหมือนกัน บางทีเขียนเมล์ หาเพื่อนๆ เขียนแล้วก็อ่านแล้วอ่านอีกจนกว่าตัวเองคิดว่า มันโอเชน่ะ แย่ๆ ส่วนเรื่องฟังไทยไม่มีปัญหาหรอก
เรียนเอสเอฟอี กะ สเว่นสก่ะ ออ พร้อมกันน่ะ การบ้านท่วมหัว เหอๆ กลับจากโรงเรียนก็กินข้าว แล้วก็มุ่นหัวทำการบ้านแล้วก็นอน ตื่นมาก็อ่านข่าวสวีเดน หรือไม่ก็อ่านหนังสือล่วงหน้า ไปโรงเรียนก็เรียนๆ ครูไม่ให้พูดภาษาอื่นๆ ก็พยายามพูดสวีดิชกัน ถูๆ ไถๆ ช่วยกันไปแหละค่ะ ฮ่าๆ ๆ แต่ก่อนพูดกันแต่อังกฤษน่ะ แต่ว่าหลังๆ อังกฤษไม่ถูกปากซะแล้ว พูดสวีดิชจะคล่องปากกว่าน่ะ
ก็ซานต้าอยู่เมืองไทยก็เขียนเมล์เปนภาษาสวีเดนหาซานต้า ก็ได้ฝึกเขียนมากมาย และก็ให้ซานต้าแก้ที่ผิดมาให้ด้วย ...
กินอยู่กับภาษาสวีเดนตลอดเวลา ก็เปนภาษาสวีเดนได้เร็ว พูดได้ เขียนได้ อ่านได้ดีที่สุด แต่ว่าฟังแย่ที่สุด เ หอๆ เจอคนที่พูดสโกนสก่ะ เข้าไปหน่อยก็หงายท้องแล้ว ฟังยากที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาก็ว่าได้
ตอนนี้ได้สวีดิชมาก ลืมอังกฤษไปเยอะ เฮ้อ ตอนที่มาสวีเดนแรกอุตส่าห์เรียนด้วยตัวเองจนคล่องกว่าเดิมตั้งแยะ พอเรียนสวีดิชมันก็โดนกลืนไปเลยอ่ะ ตอนนี้ก็พยายามฟื้นมันอยู่ และก็ลงเรียนภาษาอังกฤษด้วยแหละ
ตอนนี้เวลาจะพูดไทยก็นึกๆ ก่อน พูดไปแล้วก็มองหน้าคนฟังว่า เข้าใจตูมั๊ยเนี่ย ไม่เข้าใจถามเน้อ ฮ่าๆ ทำไมเสียความมั่นใจที่จะพูดไทยน่ะหรอ? เพราะว่า เวลาเขียนเมล์ไปหาเพื่อน หรือโทร.ไปคุยกะแม่เนีย เค้าว่าเราพูดงงๆ แปลกๆ เราก็เลยนะ...แต่ว่าเราไม่ได้แย่มากมายนิ เพียงแต่มันคงแปล่งหูเค้ามั้ง???
ไม่รู้ว่ากลับไปไทยครานี้เค้าจะว่าไงกันเนี่ย? คราที่แล้วมาอยู่สวีเดนนานแค่ ๖ เดือน พูดแต่อังกฤษ กลับไปบ้านเพื่อน พ่อ แม่ พี่น้อง บอกว่า ทำไมพูดแปลกๆ ฟร่ะ พูดจางงๆ ...บางทีเผลอพูดอังกฤษออกไปโดยไม่รู้ตัว เพราะหัวคิดเปนอังกฤษไง ฮ่าๆ ๆ กระแดะ ๆ... ครานี้จะเปนไงฟร่ะเนี่ย?
|