: Diary :
+ 2007 + 2550 +
Helsingborg, Se --> Helsingör, Dk / 16 กรกฎคม 2550
สวัสดีพ่อกับแม่ ....และคนอ่านด้วยนะ
ส่งรูปมาให้ดู ....ก็ไปเที่ยว เฮลซิงเงอ เดนมาร์ก มาน่ะ ดูตามแผนที่เลยนะ หนูอยู่ลุนด์ (Lund) ขับรถเลาะตามชายฝั่งทะเลไปเรื่อยๆ จนถึง เฮลซิงบอย (Helsingborg) แล้วก็นั่งเรือข้ามไป เฮลซิงเงอร์ เดนมาร์ก (Helsingör, Denmark) มันเป็นส่วนที่ใกล้กันที่สุดน่ะ นั่งเรือลำใหญ่ ๒๐ นาทีก็ถึง
ระหว่างทางไปขึ้นเรือก็แวะตามสถานที่ท่องเที่ยวด้วย ที่แรกก็ ปราสาทในเมืองลันสกูน่า มีน้ำล้อมรอบ มีกำแพงดินและก็ปืนใหญ่ตั้งอยู่บนกำแพงดินรอบๆ ด้วย
พอเข้าไปด้านในก็ยังมีบ่อน้ำล้อมรอบตัวประสาทอีกชั้น เอาไว้กันข้าศึก เพราะประสาทอยู่ติดทะเล ตรงชายฝั่งเค้าก็มีปืนใหญตั้งเรียงรายไว้อีกด้วย
แล้วก็ขับรถไปหมู่บ้านชาวประมง ซานต้าบอกว่า แต่ก่อนชาวประมงจน แต่ตอนนี้ดิ รวยชะมัด บ้านใหญ่โต สวยๆ ทั้งนั้น เราแวะไปดูท่าเรือ ก็เจอทั้งเรือประมง และเรือหรูๆ เอาไว้นั่งกินลมทะเลด้วย ...
แล้วก็มุ่งหน้าไปท่าเรือเฮลซิงบอย ท่าเรือใหญ่มาก คนไปกันเพียบนับไม่ถ้วน ๒๐๐ ถึง ๓๐๐ คนได้ม้าง ค่าตั๋ว ไป-กลับ คนละ ๕๐ โครน เค้ามีแแบเอารถขึ้นเรือข้ามไปด้วย แต่เราไม่ได้เอาไปกัน เพราะกะไปเดินเล่นกันเฉยๆ เสียค่าจอดรถไปตั้ง ๑๐๐ โครนแน่ะ เอริคใจปั้มจ่ายให้ คนส่วนใหญ่ที่ข้ามไปก็หวังไปซื้อเหล้า เบียร์ ไวน์ เพราะถูกว่าฝั่งสวีเดน
เรือออกบ่ายโมง... บนเรือก็มีร้านอาหาร ร้านขายของพวกน้ำหอม เครื่องสำอาง เหล้า เบียร์ พอหนูขึ้นเรือได้ก็เดินร่อนถ่ายรูปโน่นนี่ หนูขึ้นเรือของสแกนด์ไลนส์ (Scandlines) ไปน่ะ ....
ไปถึงกะว่าจะกินไอติมเดนนิช แต่แท่งใหญ่มากๆ เค้านั่งกินกันหน้าร้านน่าเอร็ดอร่อย ก็ดูไปดูมาไม่ได้กินเพราะอาหารกินกันก่อน
เป็นอาหารจานใหญ่มาก ๆ ๆ กินกันซะจุกเลย ดูจากรูปดิ จานละ ๑๕๐ โครน ไม่กล้าเหลือทิ้งเลย ยัดลงไปกันจนหมด กินอิ่มพุงกาง เงินหมดตัว ฮ่าๆ ๆ แล้วก็ไปเดินเล่นกันเฉยๆ สำรวจพื้นพี่ไปเรื่อยๆ ถ่ายรูป แชะๆ ไม่ได้ซื้ออะไร เพราะค่าเงินเค้าแพงกว่า ของแพงกว่า ที่ถูกก็พวกเหล้าเบียร์นั่น ก็ดีที่ตังค์หมด ไม่งั้นตาซานต้าต้องแบกเบียร์ติดมือกลับแน่ๆ
ฝั่งเดนมาร์ก คนอ้วนเยอะ พุงบาน ตัวเบ้อเริ่ม ตาซานต้างี้ตัวเล็ก พุงจิ๋วไปถนัดตาเลย ซานต้าบอกว่า เพราะว่าเค้าขายเหล้าเบียร์ถูกและหาซื้อได้ตามร้านทั่วๆ ไปเนี่ยแหละ คนแถบนี้เค้าชอบดื่มกันอยู่แล้วด้วย บางคนดื่มจนเงินหมด มานั่งขอทาน ลักขโมย วิ่งราว ก็มี ... หนูถึงว่า ซานต้าให้ระวังกระเป๋า ระวังโน่นนี่อยู่นั่นแหละ เพราะตอนอยู่สวีเดนวางของทิ้งไว้ยังไม่ขยับไปไหนเลยน่ะ
สวีเดนเบียร์แรงๆ และเหล้า ก็มีขายในร้านเฉพาะเท่านั้น และก็แพงกว่า เอริคบอกว่า คุณภาพดีกว่า อร่อยกว่าด้วย ส่วนเบียร์ที่มีขายตามร้านทั่วๆ ไปของสวีเดนเป็นแบบอ่อนๆ ดื่มกันมากมายก็ไม่เมาสักทีหรอก เค้าว่าที่สวีเดนเข้มงวดก็เพราะคนแถบนี้ดื่มกันเป็นว่าเล่นอยู่แล้ว ดื่มกันแทนน้ำไปเลยก็ว่าได้ ก็ดีนะที่เค้าเข้มงวดเพราะผลดีก็เกิดกะคนของเค้าเอง
เอริค เล่าว่า สมัยปู่เค้าเข้มงวดสุดๆ อนุญาตให้ซื้อได้อาทิตย์ละ ๑ ลิตร ปู่เอริคไม่ได้ดื่ม แต่ก็ซื้อเก็บไว้เล่นๆ เพราะว่าเค้าอนุญาตให้ซื้อได้นิ แล้วก็มีบัตรให้ปั๊มด้วย พอถึงงานฉลองวันเกิดก็ขนออกมาเมากันให้สะใจไปเลย และสวีเดนเค้าก็เข้มงวดเรื่องอาหารการกิน และอื่นๆ ทั้งที่ผลิตเองและนำเข้าด้วย ซานต้าว่า รัฐบาลสวีเดนเค้าต้องการให้คนสวีเดนได้กิน ใช้ของดีมีคุณภาพ
ก็คุยๆ ถามๆ ตอนนั่งกินอาหารกันนั่นแหละ แล้วสองหนุ่มใหญ่เค้าก็ไปนั่งจิบกาแฟกัน หนูไม่ได้ดื่ม ก็เดินเล่นไปมาแถวนั้นแหละ แล้วก็เดินไปขึ้นเรือกลับ แอบถ่ายรูปคนลากเบียร์กลับบ้านด้วย ตั้งใจมาขนโดยเฉพาะ ... ดูท่าทางเรือเค้าวิ่งไปๆ กลับๆ ทั้งวันเลยน่ะ ก็ถึงฝั่งสวีเดนราวๆ ๕ โมงเย็นมั้ง แล้วก็บึ่งรถกลับบ้านเลย เหนื่อยมั่กๆ ขากลับตาซานต้า สามหาววว สี่หาววว แล้วก็หลับผลอยไปเลย
นานๆ ได้ไปกันทีก็เล่นซะคุ้มไปเลย ออกจากบ้าน ๑๐ โมง ถึงบ้านราวๆ ทุ่มนึงได้ ถึงบ้านแล้วพุงยังกางอยู่เลย ไม่ไหวๆ เข้านอนกันเลย
รักและคิดถึงเสมอนะ
ยุ้ย และ ซานต้า
ปล. ตัดตอนมาจากจดหมายที่เขียนส่งไปให้พ่อกะแม่น่ะ
|